ผบ.ตร.ตั้ง 3 มือพระกาฬ ลุยคดีบึ้มป่วนกรุง

 

 

          3 ส.ค. 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)มีหนังสือคำสั่ง ตร. ที่ 459/2562 ลงวันที่ 2 ส.ค. เรื่อง แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน ใจความว่า ด้วยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562 เวลาประมาณ 15.45 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดมาวางด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และวันที่ 2 ส.ค.2562 ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานที่ราชการ แหล่งชุมชน และพื้นที่สาธารณะ และเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารของเอกชนหลายแห่ง ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลพญาไท, ทุ่งสองห้อง, หัวหมาก, ปทุมวัน,ยานนาวา สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ซึ่งเกิดเหตุในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
 

 

 

          เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง จำเป็นจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนรอบด้าน หาความเชื่อมโยงเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 11 (4) ประกอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 ลงวันที่ 1 ก.ค.2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตราการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา บทที่ 4 ข้อ 2.5.4 จึงแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้

          1.ส่วนบังคับบัญชา
          1.1 องค์ประกอบ
          1.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
          2.พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ
          3.พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
          4.พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ

          1.2 อำนาจหน้าที่
          1. อำนวยความยุติธรรม ควบคุม กำกับ ดูแล และกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนให้ครอบคลุมครบถ้วนตามพฤติการณ์แห่งคดีและองค์ประกอบในการกระทำความผิดในอันที่จะทราบข้อเท็จจริง หรือพิสูจน์ความผิดและนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
          2.ตรวจสอบ เร่งรัด พนักงานสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้รีบดำเนินการสืบสวนสอบสวนแสวงหารวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฏหมาย ตลอดจนให้คำแนะนำปรึกษาแก่ พนักงานสืบสวนสอบสวนในกรณีที่เกิดปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนทุกกรณี

          2.พนักงานสืบสวนสอบสวน
          2.1 องค์ประกอบ
          1.พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็น หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
          2.พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
          3.พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
          4.พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8
          5.พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
          6.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
          7.พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์ม่วง เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
          8.พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี
          9.พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง
          10.พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เลขานุการ
          11.พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต เป็น รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน/ ผู้บังคับการ กองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี ผู้ช่วยเลขานุการ
          12.พนักงานสืบสวนสอบสวน รายชื่อตามบัญชี

          2.2 อำนาจหน้าที่
          โดยให้เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาร่วมทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงในคดีอาญาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและหากการสืบสวนพบว่ามีการกระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกันหรือผู้กระทำผิดอื่นอีก ก็ให้มีอำนาจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในความผิดนั้นๆด้วย โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่ง และกฎหมายโดยเคร่งครัด แล้วรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบความคืบหน้าทุกระยะ

          อนึ่ง ในการสอบสวนให้พนักงานสืบสวนสอบสวนพึงระมัดระวังเรื่องอำนาจการสอบสวน โดยจะต้องมีพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจทำการสอบสวนร่วมในการสอบสวนด้วยทุกครั้ง