ข่าว

รวบเฒ่าเยอรมันหนีคดีฆ่าเมียสาววัย 17

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจกองปราบฯ แถลงผลจับกุมเฒ่าเยอรมันหนีคดีฆ่าเมียสาววัย 17 อีกคดีรวบหนุ่มกลัดมันลวงสาว 15 ขยี้กามริมป่าข้างทาง

 

             วันที่ 26 ก.พ. 2562 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ 2 คดี แบ่งเป็นคดีความผิดต่อชีวิต 1 คดี และคดีทางเพศอีก 1 คดี ร่วมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจำนวน 2 คน

 

             โดยคดีแรก พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. จับกุมตัว นายไฮนซ์ เยอร์เก็น อายุ 74 ปี ชาวเยอรมัน ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2553 ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.จัน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แฟนสาว ที่บริเวณใบหน้า ลำคอ อก แขน มือ จำนวนรวมกว่า 20 แผล จนเสียชีวิตภายในที่บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ หมู่ 7 ต.ศรีคล้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนจะหลบหนีคดีไปหลบซ่อนตัวตามที่ต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายไฮนซ์ ปัจจุบันได้กลับมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย อีกครั้ง จึงกระจายกำลังลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบตัวอยู่ที่บริเวณหน้าร้านคลินิคเม็งรายแล็ป ถ.สันโค้งน้อย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว

             จากการสอบสวนนายไฮนซ์ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าตนได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยนานกว่า 20 ปี และมีครอบครัวกับหญิงชาวไทยจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน ก่อนที่ต่อมาภรรยาชาวไทยได้เสียชีวิตลง ตนจึงได้หันมาคบหากับ น.ส.จัน (นามสมมติ) ผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกสาวตนเอง ซึ่งตอนนั้น น.ส.จัน มีอายุ 14 ปี ก่อนจะพา น.ส.จัน และบิดาซึ่งเป็นผู้ป่วยพิการเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันนานกว่า 3 ปี ซึ่งช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนั้นตนกับ น.ส.จัน ได้มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงภายในบ้าน ตนจึงพา น.ส.จัน เข้าไปพูดคุยและพยายามเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในห้องนอนกันเพียงลำพัง แต่ก็ไม่เป็นผล จึงบันดาลโทสะใช้มีดที่วางอยู่ภายในห้องจ้วงแทง น.ส.จัน จนเสียชีวิต

             จากนั้นจึงเดินออกจากห้องมาบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับบุตรสาวของตนเองและบิดาของผู้ตายให้รับทราบ ก่อนขอให้ทั้งสองคนพาตนไปเข้ามอบตัวกับทาง สภ.แม่จัน ต่อมาภายหลังที่มีการนำตัวส่งฝากขังยังศาลจังหวัดเชียงราย ตนได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวเป็นวงเงิน 4 แสนบาท จนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาก กระทั่งเมื่อถึงกำหนดนัดฟังคำพิพากษา ตนกลัวว่าเมื่อผลการตัดสินออกมาจะต้องถูกจำคุกเป็นเวลาหลายปี จึงตัดสินใจไม่ไปฟังคำพิพากษาแล้วหลบหนีคดีไปตามจังหวัดต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือ รอกระทั่งเรื่องเริ่มเงียบหายไปจึงตัดสินใจกลับเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.เชียงราย อีกครั้ง กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

รวบเฒ่าเยอรมันหนีคดีฆ่าเมียสาววัย 17

 

 

 

             สำหรับคดีที่สอง พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายเอกรัฐ หรือ อาร์ม บุญแต่ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/1 ม.1 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 730/2561 ลงวันที่ 30 ต.ค.2561 ข้อหา “พรากผู้เยาว์เด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร ,พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ,ข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้าย” หลังจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา นายเอกรัฐ ได้ก่อเหตุใช้กำลังบังคับข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เหตุเกิดบริเวณป่ารกร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ย่านท่าข้าม ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวตามพื้นที่ต่างๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าปัจจุบันได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพักเลขที่ 201 เจริญสุข อพาร์ทเมนท์ ซ.เอกชัย76 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว

             จากการสอบสวนนายเอกรัฐ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ตั้งใจจะไปหาพี่สาวของผู้เสียหายที่หอพักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม2 แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบตัว เจอแต่ น.ส.เอ ผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องสาว อยู่ในห้องดังกล่าวเพียงลำพัง จึงออกอุบายลวงพาผู้เสียหายขึ้นรถจยย.แล้วขับพาไปที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม2 จากนั้นจึงลงมือกระทำอนาจารพร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าออกเพื่อถ่ายคลิปเก็บไว้ แต่ระหว่างนั้นได้มีคนเดินผ่านมาพอดี จึงได้กระชากตัวผู้เสียหายขึ้นรถแล้วขับพาไปที่ซอยคุณากรแมนชั่น ห่างจากห้างเซ็นทรัลพระราม2 ประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นซอยเปลี่ยวและมีป่ารกร้างของเอกชนที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์ ก่อนจะฉุดกระชากผู้เสียหายเข้าไปภายในป่าแล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะนำตัวผู้เสียหายกลับไปส่งที่ทางเข้าหอพัก พร้อมกับพูดขู่บังคับผู้เสียหายห้ามนำเรื่องไปบอกใคร กระทั่งมาทราบในภายหลังว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความตนไว้ที่ สน.ท่าข้าม จึงได้หลบหนีไปตามที่ต่าง กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

             อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วยคดีรับของโจรและคดีร่วมกันลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.บางแก้ว เมื่อปี 2558 และ 2559 และคดีพกพาอาวุธปืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ เมื่อปี 2559 ศาลพิพากษาให้จำคุก 1 ปี กระทั่งพ้นโทษออกมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่ง สภ.ท่าข้าม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ