ภ.1 แจงศรีษะมนุษย์ที่พระประแดง ไม่ใช่ฆาตกรรม

 

          เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภ.1 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์  วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.จ.สมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเหตุเมื่อวันที่ 6 ก.พ. พบศีรษะมนุษย์ เน่าเปื่อย มีผมติดอยู่ ติดอยู่ริมแม่น้ำท่าเรือข้ามฟากเภตรา อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากการตรวจสอบคาดว่าเป็นศพ น.ส.จันทร์เพ็ญ  บุญกัน  อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีการแจ้งหายตัวไปตั้งแต่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาทาง "เพจงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองลัดหลวง”

 

 

          พ.ต.อ.ประเสริฐ บัวขาว ผกก.สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้นำกำลังไปตรวจสอบแฟลตขอผู้เสียชีวิตเลขที่ 2/4 หมู่ 4 ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีนายประสิทธิ์ ต่อนสุรา อายุ 49 ปี (สามีของผู้สูญหาย) และนายประทีป ต่อนสุรา อายุ 23 ปี (บุตรชายของผู้สูญหาย) พักอาศัยอยู่บริเวณชั้นสอง และได้นำโทรศัพท์มือถือของ น.ส.จันทร์เพ็ญฯ มาตรวจสอบ พบว่า น.ส.จันทร์เพ็ญฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ลักษณะบอกลาลูกชายว่า “เบริ์ดแม่ลาก่อน” เมื่อเวลา 15.56 น. ของวันที่ 4 ก.พ.

 

 

          จากการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพระประแดง และเจ้าหน้าที่ภ.1 ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านไปท่าน้ำพระประแดง ในกล้องพบ น.ส.จันทร์เพ็ญ เรียกวินจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่แยกท่าหิน จากนั้น น.ส.จันทร์เพ็ญ ได้ลงไปที่ท่าน้ำแล้วลงไปกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 16.05 น. และจมลงหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนสาเหตุที่มีเพียงศีรษะคาดว่าเกิดจากศพถูกใบพัดเรือตัดขาด หลังจากมีสภาพที่เปื่อยยุ่ยแล้ว         

 

 

          ด้านนายประสิทธิ์ สามีผู้สูญหายและนางเปล่ง สุริยะบุตร อายุ 51 ปี พี่สาวผู้สูญหาย มาดูภาพกล้องวงจรปิดแล้วยืนยันว่าบุคคลที่โดดน้ำแล้วสูญหายไปคือ น.ส.จันทร์เพ็ญ จริง และนายประสิทธิ์ฯ ยังให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองและภรรยาทำงานอยู่บริษัท เอส เอส เค กลการ จำกัด ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักของตน และภรรยาของตนมีอาการเครียดและป่วยเป็นโรคซึมเศร้าต้องกินยาและรักษาอาการป่วยดังกล่าวอยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะและเคยหนีออกจากห้องพักมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ตนเองและญาติติดตามตัวกลับมาได้ ดังนั้นจึงไม่ติดใจสงสัยเหตุการตายดังกล่าว

 

 

          “ทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัว ไม่ใช่ฆาตกรกรรม จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด หลังจากกระโดดลงไปในน้ำ นางสาวจันทร์เพ็ญพยายามจะกลับเข้าฝั่ง ซึ่งศีรษะกับจุดที่กระโดดห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนแรงจูงใจในกระโดดน้ำนั้นก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งจากการสอบถามสามีก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ไม่เคยทะเลาะ และไม่ได้มีปัญหาเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด” ผบช.ภ.1 กล่าว

 

 

          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการชี้แจงกรณีพบศีรษะมนุษย์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากหลังจากพบเหตุมีสื่อหลายสำนักให้ความสนใจ และสงสัยในหลายประเด็น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการสืบสวนสอบสวนจนกระทั้งได้ความกระจ่าง จึงเป็นที่มาของการแถลงในวันนี้.