สั่งปรับโชเฟอร์รถเมล์แลกหมัดจยย. 3 พัน พักงาน 15 วัน

          จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ม.ค. เวลาประมาณ 16.40 น. เกิดเหตุพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง สาย 510 ทะเลาะชกต่อยกับคนขับจยย. บนถนนวิภาวดีรังสิตขาออก บริเวณป้ายรถเมล์หน้าวัดเสมียนนารี โดยขณะเกิดเหตุมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปไว้ ซึ่งปรากฎภาพว่าทั้งคนขับรถโดยสารประจำทางและคนขับจยย.ได้แลกหมัดกันอย่างเมามัน รวมไปถึงมีการใช้เท้ากระโดดถีบ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียล อย่างมากตลอด 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและสั่งย้ายพนักงานขับรถคันดังกล่าวให้ไปทำหน้าที่ขับสายอื่นแทน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค. พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมนวล ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับรถโดยสารประจำทางกับคนขับจยย.นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางพนักงานขับรถโดยสารประจำทางได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ส่วนทางพนักงานสอบสวนก็ได้มีการสอบปากคำและตรวจหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถประจำทางคันที่เกิดเหตุ รวมไปถึงภาพวีดีโอที่พยานแวดล้อมได้ถ่ายไว้ ซึ่งอาจจะต้องเรียกคู่กรณีทั้ง 2 คน มาสอบปากคำอีกครั้งก่อนที่จะพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย

          ด้านเพจ Bangkokbusclub.com ชุมชนคนรักรถเมล์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ดำเนินการเรียกตัวพนักงาน ขสมก. สาย 510 (1-70324) ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใช้รถร่วมทาง (รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล) บริเวณป้ายรถเมล์หน้าวัดเสมียนนารี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 16.40 น. มารายงานตัวสอบสวน ดังนี้       

          พนักงานขับรถให้การว่า ผู้ขับรถจักรยานยนต์คู่กรณีได้จอดรถขวางหน้ารถเมล์ไว้และได้ขึ้นมาบนรถและใช้ถ้อยคำต่อว่า เนื่องจากไม่พอใจและกล่าวหาว่าขับรถเบียด จึงเป็นเหตุบันดาลโทสะให้ก่อพฤติกรรมดังกล่าว ในส่วนของพนักงานเก็บค่าโดยสารได้ให้การว่าได้พยายามเข้าห้ามปราม มิได้เข้าร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาทแต่อย่างใด 

          พิจารณาแล้วพนักงานขับรถโดยสารดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102(2) และ มาตรา 106 ประกอบมาตรา 127 ฐานผู้ขับรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม และฐานผู้ขับรถละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร ดำเนินการเปรียบเทียบปรับทั้ง 2 ข้อหา รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตผู้ขับรถเป็นเวลา 15 วัน และส่งตัวเข้ารับการอบรมการให้บริการด้วยความปลอดภัย รวมทั้งกำชับตักเตือน เพื่อมิให้เกิดเรื่องร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวอีกต่อไป และดำเนินการลงประวัติผู้ขับรถไว้ และหากพบว่ากระทำความผิดซ้ำจะพิจารณาดำเนินการพักใช้/เพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป.