ข่าว

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หอบเอกสารหลักฐานร้อง ปคม. สอบพรรคพลังประชารัฐ

 

               เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2562 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และคณะกรรมการบริหารพรรค ในข้อหาค้ามนุษย์และฟอกเงิน โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารและแผ่นซีดีบันทึกข้อความมอบให้พนักงานสอบสวน

 

 

 

               พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการแจ้งความกับพรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรัย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค และคนอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมในการค้ามนุษย์ ใช้เงินและอำนาจโดยมิชอบซื้อตัว ข่มขู่อดีตนักการเมือง แล้วให้มากักขังไว้ที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่งบุคคลพวกนี้ไปลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อได้เป็น ส.ส. แล้ว ตัวเองกรรมการบริหารพรรค หรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่เขาจะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมตรี ก็จะมีอำนาจทางการเมืองบริหารปกครองประเทศต่อไป ซึ่งเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ต่อพรรค ตามที่ปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆ  อีกทั้งรัฐบาลในปัจจุบันกับพรรคพลังประชารัฐยังมีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อย่างเช่น โครงการประชารัฐ ที่สอดคล้องกับชื่อพรรค

               พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า ฉะนั้น ผมถือว่าการกระทำของพรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการบริหารพรรค กับพวก เป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และการฟอกเงิน นอกจากนั้นยังเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 30 ห้ามมิให้พรรคการเมืองใดหรือผู้ใด ให้ เสนอให้ หรือสัญญาจะให้เงินหรือทรัพย์สินและทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งการกระทำของพรรคพลังประชารัฐและผู้บริหารพรรคเข้าข่ายความผิดสมบูรณ์ตามมาตราที่ตนกล่าวอ้าง ในวันนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความให้ บก.ปคม. ดำเนินคดีกับพรรคพลังประชารัฐ
 

 

 

               “พฤติการณ์ของพรรคพลังประชารัฐและกรรมการบริหารพรรค มีพฤติกรรมที่ใช้เงินซื้อบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เป็นอดีตผู้แทนในพรรคการเมืองอื่นๆ โดยที่คุณสนธิรัตน์ก็แถลงอย่างภาคภูมิใจยอมรับด้วยว่ามีการดึงอดีต ส.ส. เหล่านี้เข้ามาในพรรค เพียงแต่ไม่พูดเรื่องใช้เงินซื้อเข้ามา ซึ่งเรามีพยานหลักฐานเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีต ส.ส. พวกนี้ ซึ่งสื่อต่างๆ ก็มีการลงข่าวกัน นอกจากนี้ยังใช้วิธีข่มขู่นักการเมือง ลูกนักการเมืองให้เข้ามาอยู่ในพรรค และ คสช. ยังใช้มาตรา 44 ปลดนักการเมืองท้องถิ่นโดยมิชอบ เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้ง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

               จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และคณะ ได้เดินทางต่อไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดำเนินการสืบสวนและพิจารณาว่า พรรคพลังประชารัฐกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 30 หรือไม่ ต่อไป

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

เสรีพิศุทธ์ ร้องสอบ พปชร.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ