รวบ "สาวน้อย ร้อยลิ้งค์" ตุ๋นขายออนไลน์

 

              เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ที่กองกํากับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.สิทธิเดช หาญจริง รอง สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.วิไลลักษณ์ อยู่อ้น อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพะเยา เลขที่ 92/2559 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณศูนย์การค้ามาร์เก็ตเพลส ริมถนนคลองรังสิตนครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

 

 

 

 

 

              น.ส.วิไลลักษณ์ ให้การว่า ก่อนที่ตนจะตัดสินใจก่อเหตุ ตนได้เล่น “แชร์กินดอก” ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนได้นำเงินไปฝากจากนั้นจะได้ดอกมา ครั้งแรกฝากไป 20,000 บาท ต่อมา 7 วันจะได้ดอกมา 10,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท ก่อนที่จะโดนโกง จากนั้นตนจึงได้ชักชวนคนอื่นมาเล่นได้ประมาณ 50 คน แต่ก็ไม่ได้ส่งเงินตามที่ระบุไว้ นอกจากนี้ตนยังขายของในเฟซบุ๊ก แล้วมีครั้งหนึ่งตนลืมส่งของให้กับลูกค้า แต่ไม่เห็นลูกค้าทักท้วง จึงคิดว่าเงินแค่เล็กน้อยคงไม่เป็น จึงได้ทำพฤติกรรมดังกล่าวเรื่อยมา ส่วนกรณีเฟซบุ๊กที่ตนนำมานั้น เนื่องจากว่าการสมัครเฟซบุ๊กใหม่จะต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งจะทำให้ทราบถึงตัวตนของตัวเอง จึงได้ประกาศหาเฟซบุ๊กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มีเพื่อนเกิน 200 คน โดยได้มีชายคนหนึ่งมาเสนอขายเฟซบุ๊กให้ตนในราคาเฟซบุ๊กละ 400 บาท โดยตลอด 3 ปี ตนได้ติดต่อซื้อเฟซบุ๊กกับชายคนดังกล่าวมาจำนวน 10 เฟซบุ๊ก ซึ่งเฟซบุ๊กที่ซื้อมาก็เป็นเฟซบุ๊กที่ถูกแฮกมาเช่นกัน จากนั้นเมื่อได้เฟซบุ๊กมาตนก็จะนำสินค้าที่คัดเลือกมาจากเว็บ kaidee.com มาโพสต์ขาย โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปรับอากาศ ปั้มเรือ อุปกรณ์การช่าง ซึ่งกลุ่มเหยื่อจะเป็นผู้ชายที่มีอายุเพราะสามารถหลอกได้ง่าย เพียงแค่ถ่ายรูปบัตรประชาชนส่งให้ทางเหยื่อก็เชื่อและโอนเงินให้ สำหรับเงินที่ได้มานั้นตนนำมาหมุนใช้หนี้ต่างๆ และบางส่วนส่งเงินให้ลูกที่อยู่ที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้อยากขอโทษสำหรับการกระทำดังกล่าว ต่อไปจะไม่ทำอีก ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงใคร คิดแค่ว่าถ้ามีเงินก้อนใหญ่ก็จะลงทุนขายของและนำเงินมาคืนให้หมด

 

              ทางด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยว่า ได้มีกลุ่มผู้เสียหาย และเจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าในโลกออนไลน์ ได้รับความเสียหายจากคนร้ายที่หลอกโพสต์จำหน่ายสินค้า และให้โอนเงินชำระสินค้า แต่กลับไม่ได้สินค้าดังกล่าว จึงได้รวมตัวกันเพื่อแจ้งความและโพสต์แจ้งเตือนถึงมิจฉาชีพรายนี้ กระทั่งตำรวจสามารถสืบสวนพบว่าคนร้ายรายนี้คือ น.ส.วิไลลักษณ์ โดยคนร้ายจะมีพฤติการณ์ใช้เฟซบุ๊กที่ถูกแฮก และมีผู้ติดตามมากกว่า 200 คน มาจากชายคนหนึ่ง ซึ่งซื้อมาในราคา 400 บาท จากนั้นจะหลอกขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ เครื่องปั้มลม อุปกรณ์เรือ โดยใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ขายของชื่อดัง​ จากนั้นเมื่อมีผู้เสียหายสอบถามข้อมูลของสินค้าก็จะก็อบปี้ลิ้งค์ของสินค้าชนิดนั้นมาให้ผู้เสียหายดู หรือจะเปิดหาข้อมูลสินค้าเพื่อมาตอบคำถาม เนื่องจากคนร้ายไ​ม่มีความรู้ในเรื่องสินค้าแต่อย่างใด บางรายหลงเชื่อก็จะโอนเงินให้ ตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท ผ่านบัญชีธนาคารของคนร้าย แต่คนร้ายจะไม่ส่งสินค้าให้ โดยได้ก่อเหตุมาแล้ว 3 ปี สร้างความเสียหายกว่า 300,000 บาท และมีผู้เสียหายหลายร้อยคน จนได้ฉายา “สาวน้อย ร้อยลิ้งค์”

 

 

 

 

 

              พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยอีกว่า คนร้ายรายนี้หลบหนีการจับกุมของตำรวจมาตลอด 3 ปี ด้วยการเปลี่ยนเฟซบุ๊กตลอด ทำให้ยากต่อการติดตาม จึงอยากฝากให้ประชาชนที่ต้องการติดต่อซื้อขายสินค้าผ่านโลกโซเชียล ปัจจุบันมีความสะดวก และง่ายต่อการถูกหลอกลวง จึงต้องระมัดระวัง และตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด หากมีข้อสงสัยว่าอาจถูกหลอกลวง สามารถให้เบาะแสหรือสอบถามได้ที่ เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ข่าว นครบาล” และหากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ตามท้องที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่ออายัดตัวดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

 

              ด้าน พ.ต.อ.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ทางบก.สส.บช.น. ได้มีการระดมกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า ในพื้นที่นครบาลมีหมายจับค้างเก่า จำนวน 18,000 หมายจับ ในห้วงวันที่ 19-28 ธันวาคม โดยความผิดตามหมายจับส่วนใหญ่เป็นความผิดเฉพาะบุคคล ส่วนความผิดเกี่ยวกับทางโซเชียลมีจำนวน 200-300 ราย โดยทางสืบสวนบก.น.1- บก.น.9 ได้ใช้ศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมการสืบสวนคดีสำคัญ หรือ ศูนย์ CCOC เป็นจุดศูนย์กลางในการประสานข้อมูลเพื่อให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วและมากที่สุด