เปิดประวัติสาวเหยื่อปอร์เช่ชนดับ สู้ชีวิต !!

               30 เม.ย. 61  ความคืบหน้ากรณีรถยนต์สปอร์ตหรู ปอร์เช่ ชนรถ จยย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ศาลา 4 วัดลาดปลาเค้า ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งศพ นางสาวกัลยารัตน์ รอดเอี่ยม หรือ น้องก้อย นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนและญาติเดินทางมาร่วมงานกว่า 40 คน

 

 

 

 

               เพื่อนนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม อายุ 21 ปี เปิดเผยว่า ทราบข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนในช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 เม.ย. เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้ไลน์มาหาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ โดยบอกว่าจะออกจากบ้านพักย่านลาดปลาเค้า ไปซื้อชุดที่ห้างย่านบางกะปิ แต่ดึกมากแล้วก็ติดต่อกันไม่ได้ ดังนั้น จึงได้โทรไปหาพี่สาวผู้เสียชีวิต จึงทราบว่าเพื่อนได้เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ผู้ตายเพิ่งสอบติดมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และเพิ่งรู้ผลการประกาศรับเข้าเป็นนักศึกษาเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 29 เม.ย.นี้เอง โดยกำลังจะเข้าเรียนปี 1 กำหนดเปิดเทอมเดือนสิงหาคม นี้
               เพื่อนคนเดิมกล่าวอีกว่า ผู้ตายจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนประชานิเวศน์ ย่านประชาชื่น แต่ด้วยภาระหน้าที่ต่อครอบครัว ทำให้ต้องหยุดการเรียนไว้ แล้วไปทำงานธุรการ ธนาคารพาณิชย์ เป็นคนพูดเก่ง สูง 168 ซม. เคยประกวดนางนพมาศ ที่กองเสนาธิการทหารบกดุสิต ปี 2559 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และยังประกวดมาอีกหลายเวที จนกระทั่งอายุ 21 ปี การเงินเริ่มพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จึงได้มาสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพราะอยากเป็นพิธีกร อยากเป็นดารา ส่วนเพื่อนผู้ตายที่ถูกรถชนด้วยกัน ทราบแค่ชื่อเล่นว่า แจ็ก อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คบกันได้ไม่นานเท่าไหร่

 

 

 

 

               น.ส.ปียาพร รอดเอี่ยม อายุ 26 ปี พี่สาวน้องก้อย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายของออนไลน์ ครอบครัวมีพี่น้อง 5 คน พ่อเป็นอัมพฤกษ์เส้นเลือดตีบในสมองมานาน 2 - 3 ปี แล้ว ซึ่งผู้ตายจะเป็นคนพาไปหาหมอที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ส่วนแม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่พวกตนยังเด็กๆ งานเลี้ยงดูครอบครัวจึงตกเป็นหน้าที่ของตนและน้องสาวที่ตาย ส่วนน้องๆ อีก 3 คน อยู่กับยายและป้าที่ กทม. แต่เราทั้ง 2 ก็ต้องส่งให้น้องเรียน ชั้น ม.6 และชั้นประถม ซึ่งต้องหาเงินให้ได้เดือนละประมาณ 13,000 บาท เมื่อคืนผู้ตายจะออกไปซื้อชุดเพื่อสมัครทำงานพีอาร์ ร้านอาหารย่านลาดพร้าว เพื่อหาเงินส่งตัวเองและน้องๆ เรียน น้องสาวมาขออนุญาตแล้ว ทำงานธุรการแต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่น ต้องไปทำงานพีอาร์ร้านอาหารถึงจะได้เงินเดือน 13,000 บาท น้องสาวเป็นคนเรียนดี นิสัยขี้อาย ขี้กลัว ใฝ่ฝันอยากเป็นนางแบบ เป็นพีอาร์ เมื่อเรียนจบอยากซื้อบ้านให้พ่อและพี่น้องได้อยู่สบาย สำหรับอุบัติเหตุ เคยมีคนทักว่าอายุจะสั้น ให้หลีกเลี่ยงเรื่องรถ ทุกครั้งตนจะเตือนว่า ให้หาพระมาใส่ และมักเตือนมาตลอด ส่วนงานศพมีกำหนดสวด 3 วัน และจะเผาในวันพุธที่ 2 พ.ค. นี้
               สำหรับคู่กรณียังไม่ได้ตกลงเกี่ยวกับค่าเสียหายแต่อย่างใด โดยคู่กรณีบอกว่ารถมีประกันให้ทางประกันภัยจัดการให้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อโหสิกรรม “หนุ่มปอร์เช่” เคารพศพเหยื่อถูกชนดับ

               ต่อมาเวลา 19.00 น. ที่ ศาลา 4  นายสุรัตน์ อรรถพิทย์ เจ้าของรถปอร์เช่ พร้อมแฟนสาว ได้เดินทางมาเคารพศพ และฟังสวดศพนางสาวกัลยารัตน์ ท่ามกลางแขกกว่า 50 คน เมื่อพระสวดเสร็จ นายสุรัตน์ได้กราบขอขมาต่อ นายภมร รอดเอี่ยม อายุ 48 ปี พ่อของนางสาวกัลยารัตน์ และมอบเงินช่วยเหลือค่างานศพด้วย
               นายภมร เปิดเผยว่า เมื่อเขามาขอขมา ก็อโหสิกรรมให้ ส่วนด้านคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ขณะที่นายสุรัตน์เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว และในวันนี้มาร่วมงานศพและช่วยเหลือค่าทำศพตามมนุษยธรรม ส่วนใครผิดใครถูกอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งยังไม่ได้สรุปผลออกมา และยืนยันว่าตนไม่ได้ขับรถเร็ว เพราะรถอยู่ระหว่างกำลังจะออกตัวเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความเร็ว
               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทราบชื่อคนเจ็บ นายอัจฉริยะ พรหมศรี อายุ 20 ปี กะโหลกศีรษะร้าว ขณะนี้ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.นพรัตน์ ทางตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำได้

 

 

 

 

เร่งเช็กกล้องหน้ารถ-วงจรปิด "ปอร์เช่" ชน จยย.ดับ 1 เจ็บ 1 (อ่านต่อ...)