อุทยานฯ แจ้งเพิ่มค่าเสียหาย ล่า 'เสือดำ' เป็น 12ล้าน

 

         26 มีนาคม 2561- ความคืบหน้าจากกรณี นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 ขอให้พิจารณาความเสียหายทางแพ่ง ในคดีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม4คนเข้าไปล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 และโดนจับกุมพร้อมซากเสือดำ หมูป่า ไก่ฟ้าหลังเทา พร้อมอุปกรณ์ล่าสัตว์ เครื่องครัว อาหารที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ป่า นายเปรมชัย กับพวกปฏิเสธ และวันนี้ (26 มีนาคม 2561 ) ครบกำหนดฝากขังที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ แล้ว

 

         แหล่งข่าวจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม กรมอุทยานฯ ได้ตั้งคณะกรรมการ พิจารณาคดีแพ่งใหม่เพื่อให้สอดคล้อง และถูกต้องมากที่สุด โดยมี นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดี เป็นประธาน พร้อมด้วยผอ.สำนักสัตว์ป่า ผอ.นิติกร รวมถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และคณะกรรมการอื่นรวม 8 คน

 

         ต่อมา พิจารณาแล้ว สรุปให้แจ้งความคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากผู้ต้องหา 12,750,000 บาท จากเดิมประเมินเพียง 3 ล้านบาทเศษ โดยได้ส่งเอกสารให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก ปทส.) เพื่อส่งต่อไปยัง ผู้กำกับการสถานีตำรวจทองผาภูมิ

 

         สำหรับความเสียหาย ทางแพ่ง เฉพาะเสือดำ คำนวณจากโครงการปล่อยสัตว์คืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งจะต้องติดตาม ประเมินผลเป็นระยะๆ เสือด ำตัวที่ถูกยิง จึงมีราคา 12 ล้านบาท ส่วนอีก 750,000 บาท เป็นหมูป่า และไก่ฟ้าหลังเทา

 

         พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า คดีเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง สามารถฟ้องพ่วงคดีความทางอาญาได้เลย และเมื่อผู้เสียหายคือกรมอุทยานฯ เป็นผู้แจ้ง ซึ่งตำรวจยินดีดำเนินคดีให้

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอนสภ.ทองผาภูมิ ได้รับผลประเมินความเสียหายจากกรมอุทยานฯ แล้ว และวันนี้ได้ส่งมอบให้กับอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อประกอบสำนวนคดีดังกล่าว