ข่าว

"รมว.ศธ. ยืนยัน ไม่ได้ผลักภาระให้ผู้ปกครอง ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รมว.ศธ. ยืนยัน ไม่ได้ผลักภาระให้ผู้ปกครอง ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์การเรียนเพิ่ม ยัน 1 กรกฏาคมนี้เปิดเรียนตามปกติ

รมว.ศธ. ยืนยัน ไม่ได้ผลักภาระให้ผู้ปกครอง ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ 1 ก.ค.เปิดเรียนแน่นอน ส่วน เรียนออนไลน์ เป็นการเรียนเสริมสำหรับ ม.ปลาย พร้อมแจงกรณี ระบบเรียนออนไลน์ล่มวันแรก เพราะ ผู้ปกครองเปิดเรียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มากกว่าเปิดทีวี เตรียมเสนอ ครม.อังคารหน้า เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ระบุ ไม่มีแจกแท็ปเลตแน่นอนเพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณ
 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ บอกถึงการทดลองการเรียนการสอนระบบออนไลน์ เตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนวันนี้วันแรก ว่า การเรียนการสอนใน ต้องให้นักเรียนได้มีโอกาสรับการเรียนการสอนที่มีคุณภาพในขั้นพื้นฐาน แต่ยืนยันว่า จะเปิดเรียน 1 ก.ค. โดยจะให้ทำการเรียนการสอนที่โรงเรียน ซึ่งจะมีประมาณ 80% เว้นแต่บางพื้นที่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังน่าเป็นห่วง เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และ 5จังหวัดชายแดนใต้ ที่อาจจะยังเปิดไม่เต็มรูปแบบ ก็จะใช้วิธีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งการเรียนการสอนที่โรงเรียน จะคำนึงถึงความปลอดภัยครู บุคลากร นักเรียน และผู้ปกครองและจะให้ทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนเป็นหลัก เพราะจะทำให้ได้คุณภาพการเรียนการสอนที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนที่อื่น และจะต้องมีหลักการถูกต้องตามหลักสาธารณสุข ซึ่งการเข้าเรียนเป็นผลัดและห้องเรียนไม่เกิน20คน ส่วนพื้นที่ไหนมีข้อจำกัดไม่สามารถทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ ก็จะใช้โทรทัศน์ ผ่านทางไกล เอาสาระการเรียนการสอนผ่านช่องโทรทัศน์ 17ช่อง

ทั้งนี้ การเรียนการสอนออนไลน์นั้น เป็นการเรียนการสอนเสริมเฉพาะเด็กนักเรียนชั้น ม.4-5-6 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ ซึ่งมีเพียง10%เท่านั้น ที่ไม่มีอุปกรณ์แทปเล็ต โดยครูก็จะต้องทำการเรียนการสอนเสริมทักษะที่โรงเรียนแทน เพื่อให้ได้ความรู้สองทางเท่ากับคนอื่นๆ  ยืนยันว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้มีนโยบายที่จะผลักภาระไปให้ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งแท็ปเล็ต และอินเตอร์เน็ต และมองว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนจะช่วยสร้างความกระตือรือร้นให้กับผู้ปกครองด้วยเพื่อให้มามีบทบาทในการช่วยเหลือเด็กๆเพิ่มขึ้น

 

 

 

ทั้งนี้แม้นักเรียนจะไม่มีอุปกรณ์ใช้สำหรับการเรียนผ่านระบบออนไลน์ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินศักยภาพ เพราะเชื่อว่าครูผู้สอนจะประเมินความสามารถของนักเรียนได้  ขณะเดียวกันหากมีความจำเป็นครูผู้สอนต้องติดตามและประเมินว่าเด็กนักเรียนในชั้นเรียนได้เรียนผ่านระบบออนไลน์หรือไม่ ซึ่งอาจจะให้ผู้ปกครองรายงานผลหรือครูทำระบบการเช็คชื่อการเข้าเรียนควบคู่ไปด้วย
และจากการลงพื้นที่วันนี้ พบว่า ครึ่งหนึ่งของการเรียนการสอนออนไลน์ ผู้ปกครองเลือกให้เข้าระบบอินเตอร์เนตเรียนมากกว่าเปิดดูโทรทัศน์ ทำให้เกิดปัญหาแย่งสัญญานจนเป็นที่มาของสัญญานล่ม ซึ่งไม่คิดว่าจะเลือกดึงสัญญานและดูโทรทัศน์ผ่านมือถือจำนวนมาก ดังนั้นซึ่งเมื่อพบว่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ ก็จะมีการหากับกระทรวงดิจิทัลฯ และ รัฐบาล เพื่อให้เข้ามารับภาระ โดยจะเสนอ ครม.ในวันอังคารที่25 พ.ค.นี้

อีกทั้งยังพบอีกว่า หลายบ้านการต่อกล่องสัญญาณไม่ถูกต้อง และยังจูนสัญญานไม่ได้ ก็เตรียมที่จะให้น้องๆอาชีวะ เข้าไปช่วยติดตั้ง และจะหากล่องสัญญาณจากกระทรวง ดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ DE จำนวน2ล้านกล่องไปแจกครอบครัวที่ขาดแคลน แต่ยืนยันว่า ไม่มีแจกแท็ปเลตแน่นอนเพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณ
 
 
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ