หนุ่มหื่นดักฉุดเด็กนักเรียนสาวขึ้นรถแท็กซี่หวังทำอนาจาร ป. ตามรวบตัวได้ก่อนอีก 5 เดือนหมดอายุความ
12 มีนาคม 2563 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป. , พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1 บก.ป. , ร.ต.อ.สุรพล ชูใจ , ร.ต.อ.ปภินวิทย์ อุดมพร รอง สว.กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.
อ่านข่าว - ร้องครูหนุ่มอนาจาร นร.ชายแลกเกรด
ร่วมกันจับกุมตัว นายวศิน โหลดรุ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3831/2548 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2548 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีต่อหน้าธารกำนัล , ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ , หน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ , ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ"
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายยืนรอผู้ปกครองมารับบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวพร้อมกับกลุ่มเพื่อน นายวศินได้เข้ามาขอพูดคุยกับผู้เสียหายในเชิงชู้สาว แต่ผู้เสียหายไม่ยอมพูดคุยด้วย จากนั้นนายวศินจึงได้ฉุดลากผู้เสียหายไปตามถนน ผู้เสียหายพยายามสะบัดมือออก แต่นายวศินจับไว้แน่น พร้อมกับพูดข่มขู่ให้เดินตามมาและอย่าขัดขืน ต่อมาเพื่อนของผู้เสียหายจึงตะโกนว่าแม่มารับแล้ว
นายวศินจึงปล่อยมือผู้เสียหายจึงได้วิ่งหนีไปหากลุ่มเพื่อน หลังจากนั้นนายวศินได้วิ่งตามมาพร้อมกับดึงแขนผู้เสียหายและดึงคอเสื้อแล้วเรียกรถแท็กซี่ เมื่อรถแท็กซี่จอดจึงได้ผลักผู้เสียหายขึ้นรถแล้วบอกให้คนขับออกรถมุ่งหน้าไปซอยพหลโยธิน 24 เพื่อหวังพาไปยังหอพักของนายวศิน แต่ผู้เสียหายได้อาศัยจังหวะขณะที่รถคันดังกล่าวจอดติดไฟแดงลงจากรถและวิ่งหลบหนี หลังจากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งให้บิดามารดาทราบเรื่อง และได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พหลโยธิน ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับนายวศิน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่านายวศินได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบและเฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาพบนายวศินยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงเข้าจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากขณะนั้นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาดี ตนจึงคิดที่จะจีบผู้เสียหาย แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่เปิดใจรับตนประกอบกับมีหนุ่มมารุมจีบผู้เสียหายเยอะ ทำให้ตนเกิดอาการหึงหวงและก่อเหตุดังกล่าว หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีและเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี โดยจะเลือกสมัครงานประเภทที่ไม่ต้องกรอกรายละเอียดประวัติส่วนตัว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ จนเหลืออีกประมาณ 5 เดือน คดีดังกล่าวก็จะหมดอายุความ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตัวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง