ป.ป.ส.ไล่ล่าขบวนการค้ายาเบี่ยงเส้นทางลำเลียงอีสาน-ตะวันตก

26 กุมภาพันธ์ 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ยังดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง  

โดย ป.ป.ส. ได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ว่าหน่วยปราบปรามยาเสพติดเมียนมา ร่วมกับกองกำลังทหารในรัฐฉานเหนือ เข้าทำลายแหล่งผลิตเม็ดยาบ้าแหล่งใหญ่ในเขตเมืองกุ๊ตไข่ ยึดเครื่องอัดเม็ดยาบ้า ชนิดโรตารี รวม 8 เครื่อง ยาบ้า 34,500 เม็ด ผงยาบ้า 3.5 กิโลกรัม และกาเฟอีน 9 กิโลกรัม รวมทั้งสารเคมี หัวตอกอะไหล่ และอุปกรณ์การผลิตอื่น ๆ อีกหลายรายการ

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องอัดเม็ดยาบ้าที่ทางการเมียนมายึดได้ดังกล่าว ต่อเครื่องสามารถผลิตยาบ้าได้อย่างน้อยชั่วโมงละ 18,000 เม็ด หากทำงานพร้อมกันทั้ง 8 เครื่อง จะผลิตยาบ้าได้ถึง 3,456,000 เม็ดต่อวัน ที่สำคัญแหล่งผลิตที่ถูกทำลายครั้งนี้ ตั้งอยู่รัฐฉานตอนเหนือในพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มชนเผ่าติดอาวุธซึ่งยากต่อการเข้าถึง และเมื่อพิจารณาประกอบกับก่อนหน้านี้มีการยึดสารเคมีจำนวนมากที่ใช้ในการผลิตยาบ้า การปฏิบัติการครั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อขบวนการค้ายาเสพติดอย่างแน่นอน

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า แผนปฏิบัติการ 1511 ร่วมกัน 6 ประเทศ ได้ส่งผลอย่างชัดเจนทั้งในมิติของการสกัดกั้นเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นไม่ให้เข้าไปแหล่งผลิต การค้นหาทำลายแหล่งผลิต และการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ออกจากแหล่งผลิต

โดยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ประเทศสมาชิกปฏิบัติการรวม 1,848 ครั้ง ยึดยาบ้า 55.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 6.2 ตัน เฮโรอีน 470 กก. คีตามีน 517 กก. และเคมีภัณฑ์รวมประมาณ 62 ตัน ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมของประเทศสมาชิก เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทุกประเทศเห็นพ้องร่วมกันให้มีการขยายระยะเวลาปฏิบัติการระยะที่ 1 ไปถึงเดือนมีนาคม 2563  

นอกจากนี้ ไทยยังร่วมกับเมียนมา และ สปป.ลาว สกัดกั้นอย่างเข้มงวดตามรอยต่อชายแดน มีผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงจากภาคเหนือของประเทศไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนดังกล่าวมากขึ้นต่อไป