ม.3 ดิ่งชั้น 4 เครียดทะเลาะครู กระดูกแหลกโคม่า - แม่ปัดกดดัน

 

              เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563  พ.ต.ต.วีรชาติ สีห์รา สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุนักเรียนตกจากอาคารเรียนชั้น 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและรถพยาบาลเข้าให้การช่วยเหลือ

 

 

 

              ที่เกิดเหตุบริเวณถนนข้างอาคารเรียน พบเพียงกองเลือดส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่ารู้สึกตัวดี โดยได้รับบาดเจ็บขาทั้ง 2 ข้างหัก กระดูกอุ้งเชิงกรานแตก ร่างกายบอบช้ำภายใน หลังเกิดเหตุครูและเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลทักษิณ ซึ่งแพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคาดว่าจะมีเลือดออกภายในช่องท้อง และทางโรงเรียนได้แจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้ผู้ปกครองทราบแล้ว

              พ.ต.อ.ศิริชัย เปิดเผยจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ช่วงระหว่างพักเปลี่ยนคาบเรียน ด.ญ.เอ และเพื่อนอยู่ในห้องเรียน แต่จู่ๆ ได้ลากเก้าอี้ไปวางปีนข้ามหน้าต่างไปที่ระเบียงที่มีรั้วกั้นอีก 1 ชั้น แล้วกระโดดลงไปทันที ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ เมื่อสอบถามสาเหตุจากครูประจำชั้นและบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ระบุว่า ด.ญ.เอ มีอาการเครียด เคยบ่นเกี่ยวกับผลการเรียนที่ตกต่ำ โดยเพิ่งจะสอบกลางภาคเรียนไป

 

 

 

              “แต่ตำรวจได้สอบถามผู้บาดเจ็บที่ยังพอให้การได้ ซึ่ง ด.ญ.เอ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกับครู และโต้เถียงกันในห้องเรียน ก่อนที่ครูคนดังกล่าวจะออกไปจากห้องเรียนหลังหมดเวลาในคาบเรียนนั้น ทำให้ ด.ญ.เอ เครียดมากยิ่งขึ้น จึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากอาคารเรียนชั้น 4 ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ต้องรออาการผู้บาดเจ็บให้ดีขึ้นจึงจะสามารถสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง” ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวและว่า สำหรับอาการของ ด.ญ.เอ แพทย์ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เบื้องต้น ทางโรงเรียนจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด โดยจะเชิญผู้ปกครองเข้าให้ข้อมูลต่อไป

              ด้านมารดาของนักเรียนหญิงที่บาดเจ็บ กล่าวว่า ลูกสาวเป็นเด็กร่าเริง ไม่เคยเครียดเรื่องการเรียน และที่บ้านก็ไม่เคยบังคับลูกในเรื่องผลการเรียน เป็นคนที่เรียนอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ต้นๆ ขณะเดียวกัน เมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนและสามีได้ขับรถยนต์มาส่งลูกสาวที่โรงเรียน ก็ยังพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเนื่องจากยังไม่ได้คุยกับลูกสาวเพราะอยู่ระหว่างผ่าตัด ต้องรอสอบถามรายละเอียดลูกสาวหลังจากพักฟื้น