ป. รวบ 3 ผู้ต้องหาแก๊งฉ้อโกง แต่ละคนคดียาวเป็นหางว่าว

                  วันนี้ (1 ก.พ. 2563) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธน พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม จัดแถลงผลการทำงานของ 3 กองกำกับการในสังกัด คือ กก.3, กก.4 และ กก.6 บก.ป. ในการจับกุม นางสาวกัณฑ์ภิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี , นายชัยบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี และนางกมลชนกสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ที่ต่างมีหมายจับของศาลจังหวัดสกลนคร ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” อย่างน้อยรายละ 2-5 หมาย

                  อ่านข่าว ลุงแกล้งตาบอดขอทานรับติดหนี้พนันทนายชี้เข้าข่ายฉ้อโกงโทษอ่วม

                  จากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ร่วมกันใช้ชื่อกลุ่มไลน์ว่า “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” ออกเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อชักชวนเป็นสมาชิก และมีการตั้งแอคเคานท์ ไลน์ ชื่อ “ดี” และ “คุณแผ่นดิน” เพื่อหลอกลวงประชาชนว่า มีความตั้งใจระดมทุนจากสมาชิกในหลายจังหวัด เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ

                  โดยทั้ง 3 ผู้ต้องหา พยายามสร้างความน่าเชื่อถือ โดยอ้างว่ามีเงินทุนของมูลนิธิฯ สูงถึง 6 ล้าน 6 แสนล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นรายเดือนให้กับสมาชิกทุกคน ทำให้กลุ่มไลน์ของผู้ต้องหา เริ่มมีประชาชนมาเข้าร่วมเป็นสมาชิก แถมยังถูกหลอกว่าจะมีการเปิดตัวกลุ่มอย่างเป็นทางการวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย

                  ทั้งนี้จากการสอบสวน นายกำจรเกียรติ ยอมรับว่า ได้ร่วมกับนายยุทธยา เป็นผู้ริเริ่มคิดจัดตั้ง โดยใช้ชื่อ “คณะปฏิรูปฯ” พร้อมตั้งแอคเคานท์ ไลน์ เป็นช่องทางในการรวบรวมสมาชิก และจ่ายค่าตอบแทนกับสมาชิก ตั้งแต่เดือนละ 15,000 - 2,000,000 บาทต่อคน ตามตำแหน่งแต่ละระดับ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนทั่วไปเข้าร่วมและเร่งหาสมาชิก ส่งข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน, รูปถ่าย, หมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคาร ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

                  โดยกลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า ได้ประยุกต์แผนดำเนินการและโครงสร้างมาจากกลุ่มของ น.ส.กัณฑ์ภิดา ซึ่งเคยก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกันขึ้น และปัจจุบันได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จากกลุ่มที่อาศัยอยู่ได้กันทั้งหมด 5 คน มีเพียง 3 คนที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สว่าง จ.สกลนคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

                  ส่วน นายกำจรเกียรติ ซึ่งพบว่า เคยถูกจับกุมในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ในพื้นที่ สน.หัวหมาก เมื่อต้นปี 2561 ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว แต่เนื่องจากบุคคลกลุ่มดังกล่าวพยายามก่อเหตุอีกครั้ง และยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมสมาชิก ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ที่ถึงขั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทางตำรวจจึงต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมเตรียมขยายผลต่อไป

                  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางตำรวจกองปราบปรามได้ควบคุมนายชัยบูรณ์ โคตะมา ไปขออำนาจศาลจังหวัดสกลนคร ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว หลังถูกจับกุมพร้อมกับนางกมลชนกสรณ์ กางทอง และนางสาวกัณฑ์ภิดา กางทอง ตามหมายจับของศาลจังหวัดสกลนคร ในคดีฉ้อโกงประชาชน