ข่าว

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมศักดิ์" ลุยปลดล็อกกระท่อม ยกบ้านนาสารโมเดลควบคุมกระท่อมทางการแพทย์ ลั่นทำไม่สำเร็จควักเงินส่วนตัวจ่ายค่าปลูก-ดูแลแปลงกระท่อม

 

 

 

          จ.สุราษฎร์ธานี - เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่โรงเรียนท่าชีวิทยาคม ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเปิดโครงการศึกษาวิจัยเพื่อสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลพืชกระท่อมพื้นที่นำร่อง จากนั้นรมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางไปดูต้นกระท่อมแฝดอายุกว่า 100 ปี ของนายสุจิน ชูชาติ อายุ 74 ปี ชาวบ้านวังหล้อ ต.นาสาร ซึ่งมีวิถีชีวิตผูกพันกับต้นกระท่อมมานาน

 

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

 

          นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะกระท่อมมีสรรพคุณบรรเทาอาการปวด ใช้แทนมอร์ฟีน แต่สามารถออกฤทธิ์ได้ดีกว่ามอร์ฟีน 13 - 17 เท่า และนำไปใช้บำบัดเลิกยาบ้า ยาไอซ์ นอกจากนี้ยังสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่เพาะปลูก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เนื่องจากกระท่อมสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ทั้งยาแคปซูลแก้ปวดเมื่อย และเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งจะมีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำ MOU กันต่อไป นอกจากนี้ ยังมีรายงานสถิติผู้ถูกจับกุมคดีครอบครองพืชกระท่อมในปี 2562 มากถึง 60,000 คดี คิดเป็นความเสียหายจากคดีมากถึง 1,800 ล้านบาทต่อปี ทำให้ภาครัฐมีค่าใช้จ่ายทางคดีให้กับตำรวจ อัยการ และศาล ประมาณคดีละ 30,000 บาท หากกระท่อมไม่เป็นยาเสพติด จะประหยัดงบประมาณรัฐไปได้อย่างมหาศาล

 

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

 

          นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า การปลดล็อกพืชกระท่อมให้แล้วเสร็จภายในกลางปีนี้ โดยผลการประชาพิจารณ์เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ออกมาเห็นด้วย 99% และในวันที่ 22 ม.ค.นี้จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ. ให้สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณา และคาดว่าจะเสนอเข้าครม.ได้วันที่ 3 มี.ค. 2563 จากนั้นจะส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนนำกลับเข้า ครม. เสนอเข้าสภาตามขั้นตอนต่อไป คาดว่าสภาจะพิจารณาแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนนี้

 

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

 

          ด้านนายสงคราม บัวทอง กำนันตำบลน้ำพุ กล่าวว่า ตำบลน้ำพุเป็นพื้นที่เดียวในประเทศไทย ที่อนุญาตให้ปลูกกระท่อมเพื่อการวิจัยตั้งแต่ปี 2559 โดยมีการควบคุมพืชกระท่อมกว่า 1,500 ต้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ 6 หมู่บ้านของ โดยมีการควบคุมการปลูกพืชกระท่อมอย่างเข้มงวด ติดบาร์โค้ดทำข้อมูลทุกต้น และมีการกำหนดกติกาประชาคมระดับตำบลควบคุมกันเองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านรอคอยให้การปลดล็อกพืชกระท่อมมานาน ที่ผ่านมาได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาวิจัยพืชกระท่อม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

 

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการลงพื้นที่นายสมศักดิ์ได้พูดคุยกับชาวบ้าน โดยนางเพลินพิศ แซ่เขา อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคเบาหวาน จึงต้มน้ำใบกระท่อมกิน ทำให้ระดับน้ำตาลดีขึ้น แต่ยังมีความห่วงใยว่าหากมีชาวบ้านถูกจับกุมคดีครอบครองใบกระท่อมระหว่างรอแก้กฎหมายจะทำอย่างไร ซึ่ง รมว.ยุติธรรม รับปากว่า จะให้ยุติธรรมจังหวัดเข้าไปช่วยดูแลเรื่องการประกันตัว ส่วนในระยะเวลา 3 - 6 เดือนข้างหน้า หากไม่สามารถแก้กฎหมายเพื่อปลดล็อกกระท่อม จะนำเงินมาจ่ายให้ประชาชนที่ร่วมกันปลูกและดูแลต้นกระท่อม หรือไม่ก็จะโค่นต้นกระท่อมทิ้ง.

 

สมศักดิ์ พร้อมควักกระเป๋าจ่าย หากปลดล็อกกระท่อมไม่สำเร็จ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ