ข่าว

ปส. - กอ.รมน. โชว์จับ 3 คดี รวบ 7 ผู้ต้องหา ยึดของกลางเพียบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ ปส. - กอ.รมน. แถลงจับกุมกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี รวบ 7 ผู้ต้องหา ยึดยาบ้า 5 แสนเม็ด กัญชาอัดแท่ง 1,100 กก. และทรัพย์สินอื่นๆรวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

 

                 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2563 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พลตำรวจโท ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พลเอก ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. พลโท กิตติธัช บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี

 

 

 

                 คดีแรก ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายรชฏ ปริญาภัสร์ อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนา ในพื้นที่  ม.6 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายสะอุดี กลาแต อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา ในพื้นที่ ม.4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และนายวสันต์ จันทรุพันธ์ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่ ม.2 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 400,000 เม็ด รถยนต์ส่วนบุคคล 3 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง

                 โดยตำรวจสามารถจับกุมตัวบริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาสิงห์บุรี ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จว.ลพบุรี บริเวณริมถนนสายหาดใหญ่-ปัตตานี (ทางหลวงหมายเลข 43) เลยปั๊มน้ำมัน ปตท. หจก.นาหม่อม ปิโตรเลียม ประมาณ 200 เมตร ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา บริเวณโรงแรมม่านฟ้า รีสอร์ท หมู่ 4 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา โดยต่อเนื่องกัน

                 พลตำรวจโท ชินภัทร กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติด พบมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาพักไว้ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะใช้เส้นทาง เชียงใหม่ - ลำปาง - ตาก - กำแพงเพชร - นครสวรรค์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสกัดกั้นจับกุม กระทั่ง วันที่ 10 มกราคม เวลาประมาณ 11.30 น. สามารถจับนายรชฏ ได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาสิงห์บุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า ประมาณ 400,000 เม็ด ก่อนขยายผลจับกุมนายสะอุดี ได้ที่บริเวณริมถนนสายหาดใหญ่-ปัตตานี (ทางหลวงหมายเลข 43) เลยปั๊มน้ำมัน ปตท. ของ หจก.นาหม่อมปิโตรเลี่ยม ประมาณ 200 เมตร เมื่อวันที่ 11 มกราคม เวลา 04.00 น. และสามารถจับกุมนายวสันต์ ได้ที่บริเวณโรงแรมม่านฟ้ารีสอร์ท ในวันเดียวกัน

                 นอกจากนี้ ทางตำรวจยังตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาได้เพิ่มเติม ที่บ้านพักในจ.เชียงใหม่ สามารถตรวจยึด 1. วัสดุคล้ายทองคำแท่ง ประมาณ 95 บาท มูลค่าประมาณ 1,900,000 บาท 2. วัสดุคล้ายทองรูปพรรณ ประมาณ 7 บาท มูลค่าประมาณ 140,000 บาท 3. รถยนต์ ฟอร์ด 4 ประตู 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท 4. รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า 1 คัน มูลค่าประมาณ 30,000 บาท 5.โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 ฉบับ มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดมูลค่าประมาณ 5,070,000 บาท

                 เบื้องต้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”นำตัว พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและ ยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

 

 

 

                 คดีที่สอง ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายตาแกะ วิบูลย์พันธ์ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่ ม.10 ต.ศรีมหาโพธิ์อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี นายรักษ์ หรือแฉก คิมหันต์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา ในพื้นที่ ม.1 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้บริเวณทิวสนรีสอร์ท ห้อง 203 เลขที่ 440 ซ.ลุงดำ ม.1 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่

                 สำหรับคดีนี้ พลตำรวจโท ชินภัทร กล่าวว่า จากการสืบสวน ทำให้ทราบว่า นายตาแกะ (ทราบชื่อ-นามสกุลภายหลังการจับกุม) มีพฤติการณ์เป็นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จ.สงขลา โดยรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ทางภาคใต้ หลังเฝ้าสืบสวนสะกดรอย ติดตาม กระทั่งทราบว่านายตาแกะ จะทำการส่งมอบยาบ้าให้กับลูกค้า 50 มัด (100,000 เม็ด) โดยตกลงนัดดูของและส่งมอบเงินในช่วงเช้าของวันที่ 11 มกราคม  ที่ทิวสนรีสอร์ท อ.เมือง จว.กระบี่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นและทำให้พบยาบ้า 50 มัด บรรจุไว้ในกระเป๋าสะพาย วางอยู่ภายในห้อง 203 ของรีสอร์ทดังกล่าว

                 โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่อยู่ภายในห้องพัก จึงทำการจับกุมตัวก่อนแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

                 คดีที่ 3 เป็นการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือนายศราวุธ ทองธิราช อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่  ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร และนายบำรุง จันทรังษี อายุ 60 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองแวงใต้ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณ 4 แยกไฟแดงบ้านหนองไส ถนนเส้นเลี่ยงเมืองอุดรธานี ต.หนองบัว อ.เมือง จว.อุดรธานี  พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 1,100 แท่ง น้ำหนักประมาณ 1,100 กก. รถกระบะ นิสสัน รุ่นนาวาร่า และ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง

                 พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ จะลักลอบขนกัญชาจากพื้นที่ชายแดนด้าน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล หลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งวันที่ 15 มกราคม เวลาประมาณ 04.30 น. ตำรวจจึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ในที่สุด

                 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทำการยึดทรัยพ์สินเป็นเงินสด จำนวน 17,000 บาท รถยนต์ นิสสัน รุ่นเซฟิโร่ สมุดเงินฝาก จำนวน 1 เล่ม และบัตรกดเงินสด 4 ใบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและ ยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

                 พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า กัญชา ยังเป็นสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมาย หากนำไปใช้ในทางการแพทย์จะต้องมีการแสดงเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงอาการเจ็บป่วยจากผู้ประกอบวิชาชีพ และแจ้งกับทางเจ้าหน้าพนักงาน ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่ได้มีการอ้างว่าจะนำไปใช้ในการทางแพทย์ และไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้เนื่องจากมีปริมาณที่มากเกินความจำเป็น นอกจากนี้ ภายในประเทศไทยไม่มีการปลูกต้นกัญชาแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาจะนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ