ข่าว

พ่อแม่น้องไทตัลขอคืนเงินสื่อดัง เผยเหมือนโดนลูบหลังแล้วตบหัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายการโหนกระแส โดยพิธีกร 'หนุ่ม' กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญคุณพ่อและคุณแม่ของ 'น้องไทตัล' มาพูดคุยทุกประเด็นในรายการ

วันนี้ (16 มกราคม 2563) รายการโหนกระแส โดยพิธีกร 'หนุ่ม' กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญคุณพ่อและคุณแม่ของ 'น้องไทตัล' คือ นายอนุชา และ นางวิไลวรรณ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อคดีชิงทองที่ห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ยังคงตามจับคนร้ายมาเอาผิดไม่ได้ มาพูดคุยในรายการ นอกจากนี้ยังไม่ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน เงินบริจาค ที่ทั้งคู่ รู้สึกไม่สบายใจ และอยากขอเคลียร์ครั้งสุดท้ายผ่านรายการ

 

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีหลังจากที่ผ่านมา 1 สัปดาห์เต็ม ๆ ทั้งคู่ได้ขอวอนทุกฝ่ายว่า อย่าไปกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งคู่เชื่อว่าตำรวจทำงานเต็มที่ทุกท่าน ไม่อยากให้เร่งรีบ สุดท้ายกลายเป็นจับแพะ เพราะถ้าจับแพะคนที่จับมาเป็นผู้บริสุทธิ์ ครอบครัวเขาก็ต้องสูญเสียเหมือนกัน ซึ่งมันไม่เป็นธรรมสำหรับคนที่ต้องมารับเคราะห์แทน

 

ประเด็นเรื่องหนี้สิน ที่สื่อหนึ่งนำเสนอว่า 'นายอนุชา' ไปติดหนี้ ซึ่งตนยอมรับว่า ไม่ได้โกรธเจ้าหนี้ เพราะเขามีสิทธิ์ทวงถามแต่อยากถามว่ามันผิดวิธีไปไหม เราอยู่ในช่วงสูญเสียมันมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องทำให้เราเจ็บช้ำมากกว่าเดิม ถามว่าหนี้สินติดจริงไหม ก็ติดจริง ตนก็ยอมรับทางช่องนั้นไปแล้ว

 

นายอนุชา เล่าที่มาที่ไป เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า วันนั้นมีสื่อหนึ่งบอกว่าจะเข้าไปบริจาคช่วยเหลือน้อง 5,000 บาท แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะไปสัมภาษณ์อะไร บอกว่าขอเข้าไปมอบให้ที่บ้านได้ไหม วันนั้นตนต้องไปเอารถที่ธนบุรี ผมเลยบอกว่าแม่อยู่คนเดียว ให้เบอร์ติดต่อแม่ไป เขาก็คงมอบให้กับแม่ ตอนนั้นตนไม่อยู่ 

 

จากนั้นประเด็นดราม่าเรื่องหนี้สิน ตนโทรไปหานักข่าวเองบอกว่าตนติดหนี้จริง ให้นักข่าวเป็นตัวกลางประสานงาน ให้พี่นักข่าวเอาเลขที่บัญชีเจ้าหนี้มาให้ก็ได้เดี๋ยวตนจะโอนให้เลย ซึ่งนักข่าวก็รับปากว่าจะติดต่อมา แต่นักข่าวก็ไม่ติดต่อมา และก็เป็นข่าวไปในที่สุดว่า ว่าตนไปติดหนี้และหลบหนี ติดตามมานานแล้วหาตัวไม่เจอ

 

ตนยอมรับว่าเหมือนโดนลูบหลังแล้วตบหัว เขาเอาเงินมาให้แล้วทำร้ายเราทีหลัง เอาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นเล่นข่าวต่อ ตอนนี้ตั้งใจจะไปสถานีตำรวจที่ลพบุรี ตนคิดว่านักข่าวน่าจะปักหลักกันอยู่ที่นั่น เราจะคืนเงิน 5,000 บาท ให้นักข่าวช่องเขาที่อยู่ที่นั่น เราก็ขอบคุณที่มีน้ำใจช่วยเหลือเรา แต่เงินของท่าน ณ วันนี้ไม่สามารถเอาไปทำบุญร่วมกันได้ เพราะเงินของท่านทำร้ายเรา ทำให้เราเจ็บปวด

 

 

ขณะที่ประเด็นเรื่องผู้ใจบุญที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือนั้น ตอนนี้ตนก็ปิดไปแล้ว เพราะรู้สึกไม่สบายใจไม่ต้องบริจาคผ่านบัญชีแล้ว แต่ถ้าท่านใดจะมามอบที่บ้านมาเยี่ยมเยียนเราก็ยังรับอยู่ แต่เรื่องเงินบริจาคผ่านบัญชีขอปิดดีกว่า พอแล้วขอบคุณทุกน้ำใจ ยอมรับว่าทุกวันนี้แม้แต่จะเดินเข้าไปซื้อของราคาพัน เรายังไม่กล้าเข้าไปซื้อ กลัวคนเขามองว่าพอเราได้เงินแล้วไปซื้อโน่นซื้อนี่ แทบต้องอยู่บ้านโดยไม่ออกไปไหนเลย กลัวว่าพอลูกเสียก็มีเงินใช้กันฟุ่มเฟือย กลัวจะมองอย่างนั้น แต่เงินบริจาคผมก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่อยากรับ เพราะกลัวจะมีดราม่าเข้ามา สุดท้ายก็เกิดจริงๆ ตนอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ เพราะเราคือสามัญชนคนธรรมดา ชาวบ้านทั่วไป เราไม่ใช่ดารา ชีวิตส่วนตัวเราหายไป

 

 

 

 

 

ขอบคุณรายการ : โหนกระแส

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ