ข่าว

โดรน - อาวุธมหาประลัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดรน - อาวุธมหาประลัย คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

 


          หลายวันที่ผ่านมานี้ โลกเครียดร้อนระอุเหมือนอยู่บนกองไฟหลังจากอเมริกายิงโดรนถล่มนายพลคนสำคัญของอิหร่านเสียชีวิตพร้อมคณะหลายคน

          อยากสรุปเหตุการณ์ว่าอิหร่านประกาศล้างแค้นถึงกับชักธงแดงสัญญาณของการล้างแค้นเหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 

 

          ฝ่ายอเมริกาโดยประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็บอกว่าอเมริกาพร้อมถล่มจุดยุทธศาสตร์ 52 แห่งที่ได้ล็อกเป้าไว้แล้ว ซึ่งอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปโปรดอย่ากะพริบตา

          ‘ดับเครื่องชน’ อยากคุยถึงเรื่อง ‘โดรน’ อากาศยานไร้คนขับหรือนักบินที่บอกได้เลยว่าเป็นอาวุธมหาประลัยที่มีความแม่นยำสูงมาก และในรอบหลายปีที่ผ่านมาอเมริกาใช้โดรนถล่มสังหารผู้นำคนสำคัญที่มองว่าเป็นศัตรูดับสิ้นไปมากมาย

          ‘โดรน’ เหมือนสงครามกดปุ่มเพราะเป็นอากาศยานไร้คนขับที่ยิงด้วยระบบดาวเทียม ชี้เป้าโดยเลเซอร์เหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ที่เราเคยอ่านในสื่อต่างๆ หรือเกมกดที่เล่นกันแพร่หลาย

          อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อก่อนสิ้นปี อเมริกาเป็นประเทศแรกที่ประกาศตั้ง ‘กองทัพอวกาศ’ ขึ้นมาเป็นกองทัพใหม่ต่อจากกองทัพบก-เรือ-อากาศ-นาวิกโยธิน-หน่วยยามฝั่ง

          ต่อไปในอนาคต ‘กองทัพอวกาศ’ จะมีบทบาทสำคัญในการทหาร และถึงเวลาแล้วที่ชาติมหาอำนาจต้องมีกองทัพอวกาศไว้บ้างเป็นการรับมือตอบโต้

          ถึงเวลาที่มหาอำนาจต้องสะสมอาวุธมหาประลัยอีกวาระแล้ว
อ๊อด เทอร์โบ


ไฟป่าออสเตรเลีย
ไทยต้องระวังเร่งด่วน

          ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ติดตามข่าวไฟป่าออสเตรเลีย และมีความเป็นห่วงทุกคนที่อยู่ในพื้นที่หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทราบมาว่ามีพืชและสัตว์จำนวนหลายสายพันธุ์ อาจจะถึงคราวสูญพันธุ์ไปจากวิกฤติไฟป่าในครั้งนี้เลยก็ได้ครับ

          นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประมาณการคร่าวๆ ว่า ขณะนี้มีสัตว์ตายไปในไฟป่ามากถึง 480 ล้านชีวิต ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และสัตว์เลื้อยคลาน และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย โคอาลา เป็นหนึ่งในสัตว์ที่กลายเป็นเหยื่อไฟป่าได้ง่ายที่สุดของออสเตรเลีย เพราะพวกมันเคลื่อนไหวช้า และกินใบไม้จากต้นยูคาลิปตัสซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมัน ง่ายต่อการติดไฟ


          รายงานระบุว่า มีโคอาลาตายไปแล้วกว่า 8,000 ตัว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะไม่มีทางที่จะประเมินนับจำนวนความสูญเสียครั้งมหาศาลจากภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้

          ไฟป่าได้โหมกระหน่ำทั่วทั้งรัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิกตอเรีย พื้นที่อุทยานแห่งชาติถูกไฟเผาวอดไปแล้วกว่าหลายล้านเฮกตาร์ ตามรายงานของเว็บไซต์อัลจาซีรา เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 ระบุว่า ไฟป่าออสเตรเลียได้ทำลายพื้นที่ไปมากกว่า 6 ล้านเฮกตาร์ บ้านถูกเผาวอดไปแล้วกว่า 1,500 หลัง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 คน และสูญหายอีกหลายสิบชีวิต

          คาดว่าตัวเลขนี้จะยิ่งสูงขึ้นเพราะสถานการณ์ยังคงไม่สามารถควบคุมได้และยากจะคาดเดา ทั้งนี้ ด้วยลมแรงและอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส ทั่วทั้งภูมิภาค ทำให้ประชาชนกว่า 1 แสนชีวิต ต้องอพยพออกจาก 3 เขตที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ รัฐนิวเซาท์เวลส์, วิกตอเรีย และเซาท์ออสเตรเลีย

          ไฟป่าในครั้งนี้ทำให้ผมเป็นห่วงประเทศไทยของเราเช่นเดียวกันครับ เพราะดูเหมือนว่าในปี 2563 นี้ประเทศไทยในช่วงฤดูร้อนไปถึงต้นฤดูฝน เสี่ยงเข้าสู่สถานการณ์ขาดแคลนน้ำ คาดว่ามีจังหวัดได้รับผลกระทบ 43 จังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง แต่เรื่องนี้รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจครับ ได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤติภัยแล้ง ปี 2562/63 ขึ้น ดำเนินการแก้ปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเอาไว้แล้ว

          ขอส่งกำลังใจให้แก่ชาวออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่และสัตว์ป่าน้อยใหญ่ทุกตัวให้รอดพ้นจากวิกฤติไฟป่าในครั้งนี้ #Pray For Australia และพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ที่ต้องสู้กับปัญหาภัยแล้งขอให้ผ่านไปด้วยดีครับ
จักรพันธ์ (เชียงราย)


ตอบคุณ ‘จักรพันธ์’ เชียงราย
          ขอบคุณสำหรับจดหมายของคุณซึ่งเป็นการเตือนให้รัฐบาลและคนไทยเตรียมรับมือไฟป่า ซึ่งส่วนมากจะมาพร้อมๆ กับภัยแล้ง ซึ่งมีทุกปี หนักบ้าง-น้อยบ้าง

          ผมเองก็นึกอยู่เสมอว่าไฟป่าที่ออสเตรเลียนี้รุนแรงมาก แต่นึกไม่ถึงว่าจะขนาดนี้ ถึงกับคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ป่ามากมายและต้องใช้เวลาอีกหลายวันจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติและระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อมต้องใช้เวลาอีกนาน

          เวลานี้รัฐบาลไทยตั้งศูนย์เฉพาะกิจเรื่องภัยแล้งไว้แล้วและอย่าลืมอันตรายจากไฟป่าด้วย
อ๊อด เทอร์โบ


ต้องรักษาสุขภาพ
          ส่งท้ายด้วยจดหมายจากคุณ ‘ชัยอมร’ กทม. ซึ่งแสดงความปรารถนาดีมายังนักเดินทางทุกคนได้โปรดระมัดระวังสุขภาพไว้เป็นประการแรก

          ข้อแนะนำที่แจ้งมามีประโยชน์มากและเป็นการป้องกันไว้ก่อนจึงขอบคุณมา ณ ที่นี้
อ๊อด เทอร์โบ


ตรวจเข้มคนจีน
เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ

          ผมเพิ่งกลับมาจากฉลองปีใหม่กันมากับครอบครัวที่ประเทศจีน เจอกับด่านควบคุมโรค ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการนำเครื่องเทอร์โมสแกนหรือเครื่องตรวจความร้อน และเครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยเฉพาะผู้ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น

          ทราบภายหลังว่า มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจำนวน 44 ราย ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สาเหตุการก่อโรคเบื้องต้นพบว่า ไม่ใช่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก อะดิโนไวรัส หรือโรคทางเดินหายใจที่พบได้ทั่วไป

          หากทางด่านกรมควบคุมโรค พบว่ามีผู้ใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงหรือมีไข้ จะทำการคัดแยกออกทันที แล้วนำส่งโรงพยาบาล ในผู้ที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีหลายสายการบิน และสนามบินที่เตรียมรับ ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

          หากใครมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหลและเหนื่อยหอบ ร่วมกับมีประวัติเดินทางมาจาก เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ภายใน 14 วัน โปรดแจ้งพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทันที

          ขอฝากคำแนะนำ สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว รักษาร่างกายให้อบอุ่น

          ส่วนคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ หากมีอาการเริ่มป่วย เช่น มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ขอให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้
ชัยอมร (กทม.)
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ