สาวใหญ่ขับรถชนท้ายเก๋งขณะติดไฟแดง บริเวณถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว คาดเกิดอาการวูบ
สลด สาวใหญ่ขับรถชนท้ายเก๋งขณะติดไฟแดง บริเวณถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว คาดเกิดอาการวูบ พยานระบุได้ยินเสียงชนท้าย 3 ครั้ง ลงมาดูพบรถผู้ตายจอดนิ่ง ขณะที่คนขับหมดสติคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่เร่งสอบปากคำ ก่อนสรุปสาเหตุ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 ธ.ค.2562 ร.ต.อ.อำนวย โพธิ์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุรถชนกัน 3 คัน มีผู้ติดค้างภายในรถ บริเวณ ถ.พหลโยธิน ขาออก ก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์ รพ.ตร. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนพหลโยธินขาออก ก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว ประมาณ 10 เมตร พบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กฐ 1644 กรุงเทพมหานคร ถูกรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆค 964 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายได้รับความเสียหาย
ภายในรถโตโยต้า อัลติส พบ น.ส.พรทิพย์ วิชิต อายุ 47 ปี นั่งหมดสติคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่จึงนำร่างออกมาเพื่อปฐมพยาบาลนอกรถ เนื่องจากคนขับขี่รูปร่างใหญ่ ก่อนจะทำการกระตุ้นหัวใจด้วยการทำ CPR นานกว่า 15 นาที แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารอีก 1 คน ทราบชื่อ นางสมหมาย แสนคำภา อายุ 72 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.เปาโล พหลโยธิน ห่างออกไปด้านหน้าพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สศ 6049 กรุงเทพมหานคร มีรอยถูกชนที่ท้ายรถด้านขวาเสียหายเล็กน้อย
และยังมีรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 1 มก 9487 กรุงเทพมหานคร มีรอยถูกเฉี่ยวตั้งแต่ประตูหลังซ้ายจนถึงประตูหน้า ทำให้เสียการจราจรไป 2 ช่องทางด้านขวา เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดกั้นการจราจร
จากการสอบสวนพยานในจุดเกิดเหตุซึ่งขับรถฮอนด้า ซิตี้ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะจอดรถติดไฟแดงอยู่ช่องทางที่ 3 จากซ้าย มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ได้มีรถชนที่ด้านท้าย 3 ครั้ง เมื่อลงมาดูพบรถของผู้ตายจอดนิ่ง ส่วนคนขับหมดสติคาพวงมาลัย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า รถผู้ตายอาจจะขับเฉี่ยวชนกับรถแท็กซี่ หรือฟอร์จูนเนอร์ ก่อน จากนั้นจึงแฉลบมาชนท้ายรถฮอนด้า ซิตี้ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการสอบปากคำคนขับรถคู่กรณีทั้งหมด และสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ซึ่งโดยสารมากับรถผู้ตายถึงสาเหตุที่ทำให้รถชน รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ในส่วนของผู้เสียชีวิตจะนำร่างส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตร. ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง