คุกตลอดชีวิตไม่พอ แม่ไต้หวันวอนประหารมือฆ่าตัดคอลูกสาว 4 ขวบ

ไต้หวัน นิวส์   รายงานว่า แคลร์ หวัง แม่ไต้หวันที่สูญเสียลูกสาววัย 4 ขวบ หลังถูกชายหนุ่มคนหนึ่งไม่รู้จักกันใช้มีดฆ่าปาดคอที่สถานีรถไฟใต้ดินเมื่อ 3 ปีก่อน เรียกร้องให้ผู้พิพากษาศาลสูง ลงโทษประหารฆาตกรในการพิจารณาคดีใหม่ เธอไม่ยอมรับการแก้ต่างของทนายจำเลยที่ว่าฆาตกรป่วยจิต และไม่ได้รับการดูแลจากระบบสาธารณสุขของไต้หวันอย่างดีพอ 

เหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อ 28 มีนาคม 2559 เหยื่อที่มีชื่อเล่นว่า เจ้าหลอดไฟน้อย และแม่ กำลังเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงไทเป เพื่อรอรับคุณตาของเด็ก จู่ๆ นายหวัง ชิง หยู วัย 36 ปี ก็เข้ามาทางด้านหลังเหยื่อที่กำลังขี่จักรยานล้อลากอยู่ ก่อนฟันฉับที่คอของเด็ก 23 ครั้งจนศีรษะหลุดกระเด็นจากร่าง 

( แฟ้มภาพ พ่อแม่เด็ก Taiwan News ) 

อัยการแจ้งข้อหาฆาตกรรม และขอให้ศาลประหารชีวิต  แต่ผู้พิพากษาศาลแขวงฉือหลิง รับคำโต้แย้งของทนายจำเลยที่ว่า จำเลยป่วยจิต และให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน โดยยกอนุสัญญาสิทธิมนุษยชนสากล ที่ห้ามลงโทษอย่างไร้มนุษยธรรมหรือทารุณ กับจำเลยที่พิการหรือผิดปกติทางจิต แต่พ่อแม่ของเด็กหญิงรับไม่ได้ และได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ทั้งสองต้องการให้ลงโทษฆาตกรสถานเดียวคือประหาร 

เมื่อการพิจารณารอบสองเริ่มขึ้นเมื่อมิถุนายน 2561 ฆาตกรได้ขอโทษ หลิว ต้า ชิง พ่อของเหยื่อ แต่พ่อของเด็กไม่รับคำขอโทษ และได้บรรยายความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกสาว ก่อนขอร้องให้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตัดสินประหาร แต่ศาลยังพิพากษายืนคำตัดสินศาลชั้นต้น

คดีมาถึงศาลสูง ซึ่งส่งผลให้เปิดการพิจารณาคดีใหม่ และระหว่างการไต่สวนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 24 ธ.ค.) แม่ของเด็กร่ำไห้อีกครั้ง และยืนยันขอให้ประหารฆาตกร ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาอาจก่ออาชญากรรมรุนแรงซ้ำอีกหากมีโอกาสเป็นครั้งที่สอง เพราะไต้หวันล้มเหลวในการดูแลผู้มีความผิดปกติทางจิตอย่างคนคนนี้