คำตอบสำหรับนักสืบไซเบอร์ คดี ลูกฆ่าหั่นศพแม่

          เรียกได้ว่าคลี่คลายความสงสัยกันไปบ้างแล้ว หลังจากถูกนักสืบไซเบอร์จับพิรุธหลายอย่างในคดีลูกชายวัย 20 ปี ก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่ ซ่อนชิ้นส่วนอำพรางไว้ในตู้เย็น ก่อนที่ตัวเองจะยิงตัวตายในภายหลัง 

อ่านข่าว...  ทนายชื่อดังพบพิรุธคดีลูกทำร้ายแม่อาจพลิกเป็นการฆาตกรรมอำพราง

          คดีนี้นักสืบไซเบอร์รวมถึงเพื่อนสนิทของนักศึกษาหนุ่มผู้ลงมือก่อเหตุกับแม่บังเกิดเกล้า ไม่เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นฝีมือของลูกชายผู้ตาย และอาจมีการฆาตกรรมซ่อนเงื่อนเกิดขึ้น เพราะหลักฐานที่ตำรวจได้มาในวันเกิดเหตุขัดแย้งกับบุคลิกนิสัยของผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะการใช้ปืนยิงหัวตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายนั้น เป็นการยิงด้วยมือขวา ทั้งที่ตัวผู้ยิงเป็นคนถนัดซ้าย ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เจ้าของท้องที่มั่นใจในหลักฐานว่าคดีนี้ไม่มีเงื่อนงำและเป็นการฆ่าหั่นศพธรรมดาโดยฝีมือของลูกชายผู้ตายเอง

          ล่าสุด พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. ได้ออกโรงชี้แจงข้อสงสัยเป็นข้อๆ ด้วยตัวเอง ระบุว่า เหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของลูกชายรายนี้เนื่องจากพบหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าไม่มีใครเข้าออกจากตัวบ้าน ภายหลังสองแม่ลูกเข้าไปแล้ว ประกอบกับคราบเลือดที่ใช้สารเรืองแสงตรวจสอบ

          ส่วนข้อสงสัยบางประเด็นที่ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กให้ข้อมูลว่าคนที่ไปพบศพซึ่งก็คือเพื่อนร่วมงานของเหยื่อที่ถูกฆ่าเคยมีความบาดหมางกับผู้ตายอยู่ก่อนนั้น พล.ต.ต.อิทธิพล บอกว่า  จากการสอบปาคำปรากฏว่าไม่จริงอย่างที่ชาวเน็ตเล่า โดยผู้ที่พบศพเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อผู้ตาย ซึ่งมีเพื่อนในที่ทำงานเป็นผู้ยืนยัน และในประเด็นที่ชาวเน็ตบอกว่าเพียงแค่ผู้ตายไม่อ่านไลน์ ขาดการติดต่อยังไม่ถึง 24 ชม. ทำไมเพื่อนที่เป็นผู้พบศพถึงรีบไปหาที่บ้าน ในจุดนี้พบข้อมูลว่าเพื่อนของผู้ตายได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับผู้ตาย 1 ครั้งก่อนจะขาดการติดต่อ โดยการติดต่อครั้งสุดท้ายใช้เวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น และปลายสายมีความผิดปกติ วันรุ่งขึ้นจึงได้ชวนเพื่อนอีกคนมาตามหาที่บ้านด้วยความเป็นห่วง

          ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมผู้ที่พบศพต้องไปเปิดตู้เย็นทันที รองผบช.น.ชี้แจงว่า ในจุดนี้จากการสอบพยานแวดล้อมพบว่าผู้ที่พบศพไม่ได้เปิดประตูบ้านแล้วพุ่งตรงไปยังตู้เย็นทันทีตามที่ชาวเน็ตกล่าวอ้าง โดยเพื่อนที่มาตามผู้ตายทั้งสองคนมาถึงบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าลูกชายผู้ตายตะโกนออกมาจากในบ้าน ทำนองว่าไม่ให้เข้าบ้าน และมีอาการแปลกๆ ผิดปกติ ทั้งคู่จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเพื่อนที่เป็นตำรวจและเป็นเพื่อนของผู้ตายให้มาช่วยตรวจสอบ อีกทั้งเพื่อนตำรวจรายนี้ยังอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจึงทำให้มาถึงที่เกิดเหตุเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ท่าข้าม อีก 2 นาย ให้มาที่เกิดเหตุด้วย

          ในขณะเดียวกันลูกชายพยายามอ้างว่าจะรีบไปเรียน ส่วนเรื่องแม่จะตามหาเอง โดยลูกชายพยามที่จะเปิดประตูบ้านเพื่อเอารถออกไป ประกอบกับมีอาการโวยวายรุนแรงขึ้น ตำรวจจึงช่วยกันลูกชายไว้ไม่ให้ไปไหน ก่อนที่เพื่อนแม่ทั้งสองคนจะเข้าไปแยกย้ายกันค้นหาภายในบ้านตามห้องต่างๆ แต่ไม่เจอ จนกระทั่งมาเปิดตู้เย็นด้วยความสงสัยในอาการผิดปกติของลูกชายผู้ตาย ซึ่งจากการตจรวจสอบทั้งสองคนที่เข้าไปไม่ได้ตรงไปที่ตู้เย็นตั้งแต่แรก

          ด้านข้อสงสัยเรื่องลูกชายฆ่าตัวตายเองหรืออย่างไร โดยจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุทราบว่าลูกชายไม่ทราบว่าไปหยิบปืนตอนไหนแต่เห็นชัดเจนว่าลูกชายใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งในจุดนี้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์จะเป็นเครื่องยืนยันคำให้การได้ดี อีกทั้งจากร่องรอยบาดแผลพบว่าเป็นการจ่อยิงจริง ส่วนข้อถกเถียงกันว่าผู้ตายถนัดซ้ายแต่ปืนมาตกที่ด้านขวา จากการสอบถามญาติผู้ใกล้ชิดผู้ตายทั้งสองพบว่าลูกชายถนัดทั้งสองมือไม่ใช่ถนัดซ้าย และยังมีคลิปปรากฏว่าลูกชายเขียนหนังสือมือขวาด้วย

          รองผบช.น. ย้ำว่าหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดคือกล้องวงจรปิดหน้าบ้านแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่แม่ลูกกลับเข้าบ้านจนถึงคืนที่แม่ถูกฆ่าและกระทั่งเพื่อนแม่มาหา ตลอดเวลาดังกล่าวไม่มีใครเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุเลย นอกจากนี้คำให้การของเพื่อนบ้านที่บอกว่าได้ยินเสียงทุบ ตอก และมีการเปิดน้ำนานหลายชั่วโมงจากเสียงปั๊มน้ำ ทำให้สอดคล้องกับเหตุการณ์และยังพบรอยนิ้วมือบนศพและบริเวณอื่นๆ มีแต่ของลูกชาย ไม่มีของคนอื่นเลย และยังมีดีเอ็นเอแม่ และคราบเลือดแม่ที่ตัวลูกอีกด้วย

          ส่วนสภาพศพของแม่มีรอยตีที่หัว รอยแทงที่หน้าอก ส่วนการลงมือหั่นศพนั้นจากการสันนิฐานพบว่าน่าจะเฉือนเนื้อที่เฉือนง่ายทิ้งลงชักโครกก่อน ส่วนการตัดกระดูกใช้มีดวางแล้วเอาค้อนทุบ

          ทั้งนี้ในเรื่องของประเด็นหรือปมที่ทำให้ลูกชายลงมือก่อเหตุนั้น จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้สรุปสาเหตุที่แท้จริง ยังคงต้องสอบสวน แต่ข้อมูลจากชาวเน็ตที่บอกว่าแม่ลูกรักกันดีนั้นกลับไม่สอดคล้องกับการสอบสวน ซึ่งมีพยานให้การว่าเคยเห็นลูกทะเลาะกับแม่ถึงขึ้นจะนำท่อนเหล็กมาตีแม่มาแล้ว

          หลายข้อสงสัยของชาวเน็ตก็อาจจะมีคำตอบบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ดียังมีชาวเน็ตบางส่วนที่ยังไม่เชื่อ แต่จากหลายคดีที่ผ่านมาการฆ่าหั่นศพบางครั้งคนร้ายก็ไม่ได้มีพฤติกรรมซับซ้อนแต่อย่างใด