ข่าว

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

 

อีกหนึ่งโศกนาฎกรรมซ้ำซากของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อกามจากฝีมือของคนใกล้ตัว ผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงที่มีอายุแก่กว่าถึงเกือบ 30 ปี กระทั่งมีลูกด้วยกันถึง 9 คน แต่ลูกทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกพ่อแท้ๆจับเป็นตัวประกันขู่จะเอาชีวิตหากแม่คิดจะหลบหนี

 

นรกบนดินของโรซาลีน แมคกินนีส ชาวอเมริกันเชื้อสายไอริชเริ่มขึ้นเมื่อแม่ของเธอแต่งงานใหม่กับเฮนรี

 

พีท หลังจากนั้นไม่นาน เธอซึ่งขณะนั้นมีอายุแค่ 10 ปีเศษก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนภายในบ้านที่แวกอนเนอร์ รัฐโอกลาโฮมา ส่วนแม่ก็กลายเป็นถุงกระสอบทรายให้พ่อเลี้ยงซ้อม จนแม่ทนไม่ไหว พยายามขอหย่าทั้งๆที่แต่งงานได้ไม่ถึงปีเต็ม แต่ไม่เป็นผล แม่จึงหอบหิ้วเธอและน้องชายหนีไปอยู่กับยายที่รัฐมิสซูรี

 

อย่างไรก็ดี พีทก็สามารถตามหาพวกเธอจนพบ แล้วบังคับให้กลับไปอยู่ที่โอกลาโฮมาดังเดิม โดยบังคับให้อยู่ในเต๊นท์ในเมืองเล็กๆอีกเมืองหนึ่ง แต่แม่ของเธอพยายามพาลูกๆหนีอีกครั้ง ครั้งนี้หนีไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้หญิงที่เมืองโปทู

 

 

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

KSHB

 

แต่สัตว์ร้ายในคราบคนอย่างพ่อเลี้ยงของเธอก็ไม่ละความพยายามที่จะแก้แค้น ตอนที่โรซาลีน แมคกินนีส มีอายุยังไม่เต็ม 12 ปีดี  ก็ถูกพีทลักพาตัวจากโรงเรียนที่เมืองโปตู  รัฐโอกลาโฮมาเมื่อปลายเดือนมกราคม 2540 เขาพาเธอไปที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง จัดแจงปลอมตัวเธอด้วยการย้อมผมสีดำและให้สวมแว่น แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่

 

 

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

 

 

เกือบทุกวันเธอถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ  ถูกล่วงละเมิดทางเพศวันละหลายรอบ  ก่อนบังคับเธอให้ขึ้นรถแวนขับข้ามแดนไปเม็กซิโก  ที่นี่เองที่เธอแท้งลูกคนแรกทั้งๆที่อายุแค่ 12 ปีเท่านั้น  และพีทได้บังคับให้เธอนำตัวอ่อนไปทิ้งในชักโครก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ท้องอีกและคลอดลูกคนแรกขณะมีอายุแค่ 15 ปี จากนั้นเธอถูกบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานด้วย

 

นับแต่นั้นมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี  โรซาลีน แมคกินนีส ต้องใช้ชีวิตอย่างสุดแสนลำบาก ไม่มีบ้านพักเป็นหลักแหล่ง ต้องอาศัยอยุ่ในเต๊นท์ ช่วงที่ต้องโยกย้ายที่อยู่หลายสิบครั้งไปตามประเทศต่างๆในอเมริกากลางและเม็กซิโกเพื่อหลบหนีการตามล่าของทางการ โดยใช้ชื่อปลอมหลายสิบชื่อและยังบังคับให้เธอต้องใช้ชื่อปลอมและปลอมตัวอีกด้วย

 

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จากรายงานของสำนักอัยการสหรัฐระบุว่า ตลอดช่วงเกือบ 20 ปี พีทได้ควบคุมเหยื่อด้วยความรุนแรงเยี่ยงสัตว์และการล่วงละเมิดทางเพศเพื่อให้เธอและลูกๆหวาดกลัวจนไม่กล้าขัดขืนคำสั่งใดๆ ขณะที่แมคกินนีส เผยเพิ่มเติมว่าถูกพีททำร้ายร่างกายทั้งด้วยด้ามพานท้ายปืนไรเฟิล,ไม้เบสบอลและกระป๋องเบียร์ ล่าสุดก็ใช้กะทะสแตนเลสฟาดเธอที่ท้อง แต่เธอได้ใช้มือปกป้อง กระทั่งถูกบาดเป็นแผลลึกถึงกระดูก

 

”เหตุผลเดียวที่พวกลูกๆยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะฉันยังมีลมหายใจอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะฆ่าลูกทุกคน...ทุกครั้งที่เขาทำร้ายลูก ฉันต้องเข้าไปขวางไว้แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็สุดแสนจะเลวร้ายมาก ถ้าคุณคิดถึงรูปแบบการทำร้ายทุกวิธีเท่าที่คุณคิดได้ นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เขาทำกับฉัน”

 

ช่วงเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นตอนที่เธอต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก เธอนอนในเต๊นท์ในชนบทที่สุดแสนกันดารที่เม็กซิโกด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากอุปกรณ์การผ่าตัดแสนจะล้าสมัย แต่แทนที่จะได้พัก พีทกลับบังคับให้เธอลุกขึ้นทำงานต่อตามปรกติ แต่เมื่อเห็นเธอทำงานชักช้าไม่ทันใจ เขาก็ระเบิดอารมณ์รุนแรง ตรงเข้ามาทำร้ายเธอโดยไม่คิดว่าเธอเพิ่งจะผ่าตัดมาใหม่ๆ วินาทีนั้นเองเธอก็ได้คิดและตัดสินใจว่า ถ้าไม่หนีให้พ้น เธอคงจะเป็นบ้าหรือตายเสียก่อนแล้วปล่อยให้ลูกๆต้องเผชิญกับชะตากรรมกับสัตว์ร้ายผู้นี้

 

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

 

 

ในที่สุด สวรรค์ก็เริ่มมีตา ชักนำให้แมคกินนีสได้รู้จักกับ ลิซาและเอียน สองสามีภรรยาในเม็กซิโกในตอนกลางปี 2559 ลิซาเป็นชาวอเมริกัน ส่วนเอียนเป็นชาวอังกฤษ ทั้งสองคนพบเธอและลูกๆที่ผอมแห้งเหมือนหนังหุ้มกระดูก รวมทั้งพีท กำลังซื้อของใช้จำเป็นที่ร้านชายของชำร้านหนึ่งในเม็กซิโก สองสามีภรรยาคู่นั้นเริ่มได้กลิ่นว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติ เพราะท่าทีของพีทนั้นแสดงถึงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับใครและไม่ต้องการให้ใครๆเข้ามาใกล้

 

 

 

แล้วโอกาสทองก็มาถึงอย่างคาดไม่ถึง เมื่อพีทมีเงินไม่พอจ่ายค่าของใช้ที่ซื้อ ลิซ่ากับเอียนได้ทีเสนอตัวเข้ามาช่วยจ่ายเงินให้ แมคกินนีสเผยว่า”พวกเขาคงสังเกตเห็นว่าอายุของฉันกับพีทต่างกันมาก แถมยังมีลูกยั้วเยี้ย พอเห็นเรามีเงินไม่พอจ่ายค่าข้าวของที่ซื้อ พวกเขาก็เลยช่วยจ่ายให้แล้วถามว่าพวกเราพักที่ไหน....”ขณะที่พีทเองซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อปลอมว่าบิล อันเป็นหนึ่งในชื่อปลอมหลายสิบชื่อที่ใช้อยู่เกิดเผลอบอกความจริงว่ามีอายุ 62 ปีแล้ว ส่วนแม็คกินนีส ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อปลอมว่าสเตฟานีมีอายุแค่ 32-33 ปี

 

 

“ต่อมา เราก็ย้ายที่อยู่ แต่พวกเขาก็สืบรู้ว่าเราอยู่ท่ไหน และแสดงท่าทีให้ฉันเห็นว่าอยากจะให้ช่วยอะไรไหม พวกเขายินดีจะช่วย”

 

ด้านลิซา  ให้สัมภาษณ์สื่อในภายหลังว่า  ”พวกเขาพร้อมลูกๆ 8 คนอัดกันอยู่ในห้องเล็กๆใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน นิดเดียวเท่านั้น พวกเด็กๆผอมจนเหมือนหนังหุ้มกระดูก พีทไม่ได้รักพวกเขาแม้แต่คนเดียว”

 

“ตอนเรากลับถึงบ้าน ฉันก็พูดขึ้นว่า”เอียน เธอเพิ่งอายุ 32 ปีเท่านั้นนะ ฉันคิดว่าลูกคนโตของเธอคงมีอายุ 17 ปี เท่ากับว่าเธอมีลูกตอนอายุแค่ 15 ปี แต่สามีของเธออายุตั้ง 62 ปี ฉันคิดว่ามีอะไรผิดปรกติแน่”

 

ลิซาได้โทรศัพทหาแม็คกินนีส พร้อมกับพูดว่า “คุณรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากคุณต้องการจะให้จับสามีของคุณเข้าคุกหรือไปที่สถานบำบัดในข้อหาอะไรสักอย่างอย่างเช่นติดยาเสพติดหรือติดสุรา พวกเราพร้อมจะช่วยคุณเอง” ถึงตอนนั้นบิล(ชื่อปลอมของพีท)ก็มาที่บ้าน เราก็เลยวางโทรศัพท์ และทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ฉันพูด”

 

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน แม็คกินนีส ซึ่งได้รวบรวมความกล้าเป็นครั้งแรกในชีวิตหอบลูกๆ 8 คน ยกเว้นลูกชายคนโตที่ได้หนีออกจากบ้านและไม่เคยพบกันเลย กระทั่งเมื่อเธอสามารถหลบหนีออกจากขุมนรกบนดินได้และกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา ลูกชายคนโตจึงกลับมาอยู่กับแม่พร้อมกับน้องๆ หนีจากนรกบนดินที่ทนอยู่มานานร่วม 20 ปีก็มาหาลิซากับเอียนที่บ้าน

 

 

ก่อนหน้านี้  เธอได้นำเงินที่แอบเก็บเล็กผสมน้อยจากการขายกาแฟ น้ำผึ้งหรือไอศรีม จ่ายเป็นค่าแท็กซี่ให้พาพวกเธอและลูกๆไปที่เมืองอัวซากา เม็กซิโก จากนั้นได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือไปที่ศูนย์ติดตามผู้สูญหายและการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (เอ็นซีเอ็มอีซี)  ลิซาได้พาเธอตรงไปที่สถานกงสุลอเมริกันประจำเม็กซิโกซึ่งรีบช่วยทำพาสปอร์ตฉุกเฉินให้เธอและลูกๆเพื่อจะเดินทางกลับบ้านแท้จริงเสียที เธอและลูกๆต้องหลบซ่อนตัวนานถึง 2 เดือนกว่าจะได้พาสปอร์ตและเดินทางกลับอเมริกา

 

ส่วนพีทหลบหนี แต่ถูกควบคุมตัวเมื่อราวเดือนกย.2560 ขณะเดินทางไปที่สถานทูตสหรัฐประจำเม็กซิโกเพื่อจะขอทำพาสปอร์ตก่อนจะถูกฟ้องในปลายปี 2560 จากเอกสารคำฟ้องของศาลระบุว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่าพีทเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรในเม็กซิโก และเชื่อว่าเขาเคยข่มขู่คนหลายคนที่พยายามจะช่วยแม็คกินนีสหลบหนี คณะลูกขุนซึ่งใช้เวลาพิจารณาคดี 7 วันก็ตัดสินว่าเขาทำผิดจริงในข้อหาลักพาตัวและเจตนาเดินทางไปเม็กซิโกเพื่อร่วมประเวณีกับผู้เยาว์ แม้พีทจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่คงรอดยากจากโทษจำคุกตลอดชีวิต

 

วันที่พีทถูกจับกุมนั้น แม็คกินนีส ได้ออกแถลงการณ์พิเศษสั้นๆผ่านนิตยสารพีเพิลว่า”โล่งอก”แม้จะเป็นคำสั้นๆแต่ก็บอกได้หมดถึงอารมณ์เจ็บปวดนานถึง 22 ปี นับตั้งแต่ตกเป็นเหยื่อไร้ทางสู้ของเขาตั้งแต่อายุแค่ 11 ปี 

 

“ในที่สุดเขาก็ถูกจับจนได้และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน”

 

 

จากเด็กหญิงเป็นแม่ของลูก 9 คน ถูกพ่อเลี้ยงลักพา-กักตัว 19 ปี

แม็กกินนีส เปิดใจครั้งแรกในรายการ True Crime 

 

แม็คกินนีส สารภาพว่า ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยปริปากบอกความจริงที่แสนเลวร้ายที่สุดให้ลูกๆฟัง “พวกลูกๆไม่มีใครรู้ความจริงที่เกิดขึ้น....ฉันปิดบังความจริงไม่ให้ลูกรู้ จนกระทั่งสามารถหลบหนีจากขุมนรกที่เม็กซิโกได้แล้ว...พอลูกๆรู้ความจริง ทุกคนต่างช็อกไปตามๆกัน 

 

“ทุกๆวัน ทั้งฉันและลูกๆต่างทุกข์ทรมานจากการถูกทำร้ายโดยชายที่มีใจเยี่ยงสัตว์ ตอนนี้พวกเรากำลังปรับตัวให้ชินกับอิสรเสรีที่เราเพิ่งรู้จักและจะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความสุขและความสำเร็จ

 

ตอนนี้ แม็คกินนีส กล้าเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการณรงค์หาทุน GoFundMe เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกๆทั้ง 9 คน รวมทั้งสานฝันของเธอให้เป็นจริงที่จะเรียนให้จบระดับวิทยาลัยและจะเป็นนักสืบเอกชน ทั้งนี้เพื่อจะช่วยเด็กที่สํญหายอีกไม่ใชน้อยที่อยู่ในสถานะเดียวกับที่เธอเคยประสบมาก่อน

 

ในเวบไซต์ GoFundMe แม็คกินนีสเขียนว่า “ฉันไม่กลัวอีกแล้วที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเนื่องจากเจ้าสัตว์ร้ายที่จับลูกๆของฉันเป็นตัวประกัน ตอนนี้ก็ถูกจับแล้วและตอนนี้ฉันก็พ้นจากนรกที่หมกไหม้มานาน 22 ปี

 

“ฉันอยากจะเรียนให้จบแล้วไปต่อที่วิทยาลัยในสาขากฎหมายอาญา เพื่อจะได้เป็นนักสืบเอกชนช่วยตามหาเด็กที่สูญหายเหมือนที่ฉันเคยประสบมาก่อน แน่นอน ฉันมีความฝัน แต่ลูกๆขอฉันต้องมาอันดับแรกและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป"

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ