ข่าว

ศาลสมุย-อ่างทอง คุก 1 เดือน ทนาย-จำเลย พกอาวุธเข้าศาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกศาลยุติรรม" เผย ศาลสมุย สังคุก 1 เดือน ทนายพกปืน-ศาลอ่างทอง จำเลยมาฟังตัดสินพกมีดพับ จำคุกละเมิดศาล ด้าน "อธ.ศาลอาญา" สั่ง รปภ.ตรวจค้นเข้ม เน้นปลอดภัย

 

 

          เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2562 – นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศาลจังหวัดอ่างทอง ซึ่ง ผอ.ศาลจังหวัดอ่างทองได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำศาลฯ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติหน้าที่จุดตรวจอาวุธ บริเวณประตูทางเข้าตรวจค้นตัว นายประสิทธิ์ วรรณโอสถ จำเลยคดีดำ อ.1582/2562 ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส (ซึ่งเดินทางมาฟังคำพิพากษา) พบอาวุธมีดพกพับขนาดยาว 7.5 นิ้วอยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงได้ยึดมีดพกไว้ พร้อมนำตัวไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลเพื่อควบคุมตัวไว้ และเมื่อรายงานให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอ่างทองรับทราบ ก็ได้ตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล คดีหมายเลขดำ อ.ลศ. 3/2562 ให้จำคุก 2 เดือน ซึ่งนายประสิทธิ์รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือนพร้อมริบอาวุธมีดของกลาง และให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีดำ อ.1582/2562 ด้วยที่ศาลลงโทษจำคุก 1 ปี

 

          นอกจากนี้ วันเดียวกันที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ก็ได้รับรายงานจาก ผอ.ศาลจังหวัดเกาะสมุยว่า วันนี้เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ รปภ. ตรวจพบอาวุธปืนสั้น ชนิดลูกโม่ขนาด .357 เลขหมายประจำปืน DKT9904 ยี่ห้อ SMITH & WESSON ซึ่งเป็นของนายนิติ สุบิน อาชีพทนายความ จึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว พร้อมรายงานผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเกาะสมุย ทราบและได้ตั้งสำนวนละเมิดอำนาจศาล โดยศาลพิพากษาให้จำคุกมีกำหนด 2 เดือน ซึ่งทนายความผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนการพกอาวุธปืนนั้นก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

 

          นายสุริยัณห์ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงการจับกุมผู้พกอาวุธเข้าศาล ที่ฝ่าฝืนระเบียบนำอาวุธหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในบริเวณศาลว่า หลังจาก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ออกคำสั่งมาตรการรักษาความปลอดภัยความเรียบร้อยบริเวณศาล ส่งถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมให้ใช้เป็นแนวทางและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดแล้ว (ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.) ทุกศาลทั่วประเทศตื่นตัว ซึ่งแต่ละศาลวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้น โดยคำสั่งที่เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมให้ไปนั้นแต่ละศาลก็จะมีการรายงานผลกลับมาว่าประชุมหรือปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย อย่างไรบ้างแล้ว

 

          ด้าน นายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคนใหม่ ก็ได้เปิดเผยถึงมาตรการความปลอดภัยเพื่อรับมือป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งศาลอาญาหนึ่งในศาลที่มีขนาดในพื้นที่ กทม. ว่า ช่วงที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง (เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา) ก็ได้กำชับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดอยู่แล้ว โดยเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นในศาลหลายพื้นที่ตนก็กำชับให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งให้นโยบายไปว่า หากเป็นตนถือกระเป๋าเดินผ่านเข้าจุดตรวจค้น ก็ควรตรวจค้นด้วย บางคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยพอมาศาลบ่อยๆ ก็จะคุ้นหน้ากันความเข้มข้นก็จะน้อยลง ผตนกำชับว่าคนนอกที่เราไม่รู้จักแต่ที่คุ้นเคยเพราะมาศาลบ่อยเราก็ต้องตรวจเพราะเขาจะพกอาวุธมาวันไหนก็ไม่รู้ เราก็ต้องตรวจเข้มงวดทุกคน ทั้งนี้ในศาลอาญาก็ยังมีหลายจุดที่ต้องปรับปรุงและเพิ่มเครื่องตรวจอาวุธ ซึ่งอยู่ระหว่างประสานงาน กับสำนักงานศาลยุติธรรมจะขอเครื่องตรวจอาวุธเต็มรูปแบบมา โดย สำนักงานศาลฯ พร้อมให้ความร่วมมือ

 

          "พยายามทำความเข้าใจกับทุกคนว่าหากรู้สึกอัดเวลาที่โดนตรวจค้นเยอะ ให้คิดว่านั่นแหละคือความปลอดภัย และตรงนี้อยากฝากถึงคนที่มาติดต่อราชการด้วย ขอความร่วมมืออย่านำอาวุธของต้องห้ามมาตรงนี้ขอเลย" อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวและว่าบางทีเจ้าหน้าที่อาจจะมีการตรวจที่หย่อนยานไปบ้างตนจึงให้นโยบายด้วยว่า ความสะดวกกับความปลอดภัย มันอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าเราเอาสะดวกตรวจหย่อนยานหรือไม่ตรวจ ความปลอดภัยก็จะไม่มี อย่างไรก็ดีก่อนเกิดเหตุในส่วนของศาลอาญาเอง ก็มีการตรวจค้นจับกุมอาวุธได้เป็นมีดกับสนับมือแต่ก็ไม่ได้มีการเสนอข่าว หรือบางทีก็มีการตรวจค้นเจอยาเสพติด ตรงนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องไม่หละหลวมทำงานเข้มแข็ง ตรวจจริงจังก็จะเป็นเรื่องดี" นายชูชัย กล่าว

 

          นายชูชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้พิพากษาซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในศาลอาญานั้นจะมีประตูใช้คีย์การ์ดที่เป็นช่องทางเข้าต่างหาก ตนก็ได้เน้นย้ำว่าประตูที่เป็นคีย์การ์ดสำหรับผู้พิพากษานั้นบางทีก็มีการเปิดค้างไว้ จึงกำชับว่าประตูคีย์การ์ดให้ปิดหมด คนไม่มีคีย์การ์ดก็จะไม่สามารถเข้าได้

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลอาญานั้น สังเกตพบว่ามีความเข้มงวดขึ้นทั้งการตรวจค้นประชาชนผู้มาติดต่อราชการ และการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ และผู้พิพากษาที่เดินผ่านเข้าจุดตรวจ ทางเข้าอาคารศาลอาญา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ