ข่าว

ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา คดีเด็กอายุ 13 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา คดีเด็กอายุ 13 ปี กระโดดตึกเสียชีวิตแล้ว

 

 

          เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2562 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุ ด.ญ.วัย 13 ปี กระโดดตึกเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเกิดจากความเครียด ในพื้นที่ สน.หัวหมาก ว่า ได้รับรายงานจาก สน.คลองตัน ว่า เมื่อวันที่ (13 พ.ย.) มารดาผู้เสียชีวิต ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ว่า บุตรสาวตนเองได้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ภายในห้องพักแห่งหนึ่งภายในซอยพัฒนการ 36 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิต , นายกิติยะพงษ์ บุญถนัด และ นายอานนท์ โดรอเซะ อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมได้ตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบเครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 67.5 มม. จำนวน 3 นัด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี ซึ่งนายกิติยะพงษ์ฯ รับว่าเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว เป็นของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม นายกิติยะพงษ์ ในข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืน (ลูกซอง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

         โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน ได้ทำการสอบสวน ขยายผล ตลอดจนพิสูจน์ทราบถึงมูลเหตุที่เกิดขึ้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2562 คาบเกี่ยววันที่ 12 พ.ย. 2562 เวลากลางคืน ผู้ก่อเหตุ 2 คน ได้แก่ นายกิติยะพงษ์ บุญถนัด อายุ 24 ปี และ นายอานนท์ โดรอเซะ อายุ 25 ปี ได้ร่วมกันพา ผู้เสียชีวิต ไปทำอนาจาร ภายในห้องพักแห่งหนึ่งภายในซอยพัฒนการ 36 ซึ่งในวันนี้ (18 พ.ย.62) ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันพราก เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร”

 

         รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่ได้มีการขยายผลและพิสูจน์ทราบ ตลอดจนศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้ขออายัดตัว นายกิติยะพงษ์ ตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะนี้ เป็นผู้ต้องขังภายในเรือนจำ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.คลองตัน ได้เร่งสืบสวน ติดตาม จับกุม นายอานนท์ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากพบมีผู้อื่นร่วมกระทำผิดก็จะดำเนินคดีจนถึงที่สุดต่อไป อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน ยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ เพื่อพิจารณาข้อหาความผิดที่เกี่ยวเนื่องต่อไป 

 

          ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานของการกระทำความผิดอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเป็นสำคัญ พร้อมเร่งคลี่คลาย คำถามและข้อสงสัยของสังคมในเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในต้นธารของกระบวนการยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคม
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ