ข่าว

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยกแรก ปารีณา ปะทะเดือด เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง เมิน บิ๊กช้าง แจงแทน ลั่นต้องฟังจากปาก บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม เท่านั้น ด้าน ประสาน เตือนระวังเจอ ม.157

 

                 ที่รัฐสภา 13 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกมธ.​ มีวาระพิจารณาเชิญ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ชี้แจงต่อประเด็นการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยไม่ชอบ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าว นายกฯได้ส่ง พล.อ.ชัยชาญ​ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนชี้แจง ขณะที่รองนายกฯ ได้ส่งนายประสาร หวังรัตนปราณี คณะทำงาน เป็นตัวแทนชี้แจง (อ่านข่าว ยังคุยกันดี บิ๊กตู่ ลั่น รบ.ไร้รอยร้าว ส่ง บิ๊กช้าง แจง กมธ.)

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

 

                 ทั้งนี้ พล.อ.ชาญชัย และนายประสาน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงในเนื้อหาเดียวกันว่าเป็นตัวแทนมาชี้แจงต่อกมธ.​ตามที่มีหนังสือและได้นำหนังสือชี้แจงของนายกฯ และรองนายกฯ​ ที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมมามอบให้กับกมธ.ด้วย อย่างไรก็ตามมีเพียง 2 ประเด็นที่จะชี้แจงตามที่ได้รับมอบหมาย คือ การเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ที่ถูกท้วงติงว่าไม่ชอบนั้น ข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติตามกรอบของวิธีเสนองบประมาณ ส่วนการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้นเป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย (อ่านข่าว บิ๊กตู่ ลั่นอยู่อีกนานไม่ต้องกลัว)

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

                 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมกมธ.ฯ ในวาระดังกล่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้พล.อ.ชาญชัย และนายประสาน มอบหนังสือชี้แจง ซึ่งลงลายมือชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ต่อหน้าที่ประชุมกมธ. และให้ชี้แจงรายละเอียดสั้นๆ ก่อนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะกล่าวต่อที่ประชุมว่า ไม่สามารถให้บุคคลอื่นมาชี้แจงแทนบุคคลที่ระบุชื่อให้มาชี้แจงได้ พร้อมยกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรคสี่ ระบุว่า กมธ.มีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคล หรือเรียกบุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนั้น กมธ.ไม่สามารถรับฟังคำชี้แจงจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ที่เชิญชี้แจงได้ เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถูกเชิญชี้แจงและกมธ.ฯ ทั้งนี้บุคคลที่เชิญ ระบุชื่อไว้ชัดเจนด้วย ดังนั้นตนจะขอมติจากที่ประชุมต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

                 ทั้งนี้ พล.อ.ชาญชัย ชี้แจงตอนหนึ่งด้วยว่าตามรัฐธรรมนูญ​มาตรา 129 วรรคสอง บัญญัติให้การทำหน้าที่ของกมธ. ต้องอยู่ในหน้าที่และอำนาจตามที่ระบุไว้ ซึ่งข้อบังคับการประชุมสภาฯ พ.ศ.2562 ข้อ90 (22) ระบุว่า กมธ.ฯ ต้องสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการ และมาตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต ซึ่งประเด็นการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ขณะที่ผ่านวาระแรกแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาวาระสอง ซึ่งเป็นไปตามกรอบการจัดทำงบประมาณ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการประพฤติมิชอบ และไม่อยู่ในอำนาจของกมธ.ที่ระบุไว้ในข้อบังคับ ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวโต้แย้งว่าเรื่องตรวจสอบดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกมธ. ไม่เช่นนั้นจะเรียกคนมาชี้แจงทำไม

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

 

                 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการพิจารณาด้วยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ​ และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกมธ. แทนตำแหน่งที่ว่าง เข้าร่วมประชุม โดยตอนหนึ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ความเห็นต่อการไม่ยอมรับคำชี้แจงของพล.อ.ชาญชัย และนายประสาน และต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มาชี้แจงต่อกมธ. ด้วยตนเอง น.ส.ปารีณา ขอแสดงความเห็น แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขึ้นว่า ขอให้รู้มารยาท เพราะประธานยังไม่เชิญให้พูด ทั้งนี้ขอให้พิจารณา เพราะก่อนหน้านี้ตนมอบหมายงานให้ทำแต่ยังไม่ยอมรับเลย ก่อนจะเรียกให้ น.ส.ปารีณา แสดงความเห็นภายหลังจากที่รับฟังข้อชี้แจงของตัวแทนผู้ถูกเชิญชี้แจงแล้วเสร็จ

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

                 โดย น.ส.ปารีณา กล่าวว่า กรณีที่ประธานกมธ.ฯ เหมือนใช้อำนาจบังคับบุคคลให้มาชี้แจง ทั้งที่เป็นการขอความร่วมมือและมาโดยสมัครใจ ถือว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ที่ผ่านมาสภาเคยเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร อดีตนายกฯ​มาชี้แจงยังไม่เคยมา ดังนั้นการใช้อำนาจบังคับบุคคลอาจผิดกฎหมายได้ และประธานกมธ.ฯ อาจต้องติดคุก จึงทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “ขู่ผมเหรอ ผมเรียนกฎหมายมา” ก่อนที่จะให้กมธ.ฯ คนอื่นแสดงความเห็น ซึ่งมีผู้เสนอให้การพิจารณาต่อไปของกมธ.ฯ เป็นการประชุมภายในของกมธ.ฯ ทำให้ต้องเชิญผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึง พล.อ.ชาญชัย และนายประสาน ออกจากห้องประชุม

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

                 จากนั้นนายประสาน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมต่อประเด็นที่ กมธ.ฯไม่ยอมรับฟังคำชี้แจงแทนและต้องการฟังข้อเท็จจริงจากนายกฯ และ รองนายกฯ เท่านั้นว่า เรื่องดังกล่าว ได้ศึกษาข้อกฎหมายเพื่อเตรียมการไว้แล้ว โดยเฉพาะหน้าที่และอำนาจของกมธ.ฯ ที่กำหนดไว้ในหมวด 5 ข้อ 90 (22) ที่ระบุว่า กมธ.ฯ ต้องพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการและมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งเรื่องที่กมธ.ฯ เรียกนั้นไม่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ ส่วนกรณีที่ กมธ.เตรียมใช้อำนาจตามกฎหมายคำสั่งเรียก เรียกให้ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจง ซึ่งหากไม่มาจะมีผลต่อการดำเนินคดีอาญา นั้น หากจะใช้อำนาจตามกฎหมายคำสั่งเรียก พ.ศ.2554 สามารถทำได้ แต่ต้องระวังด้วยว่าอาจถูกฟ้องร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้เช่นกัน

 

 

ปารีณา ปะทะ เสรีพิสุทธ์ กลางวง กมธ.ปราบโกง

 

 

                 “พล.อ.ประวิตร พร้อมให้ความร่วมมือ แต่ที่ไม่มาชี้แจงใน 2 ครั้งของการประชุมได้เพราะมีภาระกิจจำนวนมาก และทั้ง 2 ครั้งไม่เคยขอเลื่อน เพราะมอบหมายให้ผมมาชี้แจงพร้อมเอกสาร ซึ่งพล.อ.ประวิตร ต้องการให้กมธ.ฯ ตั้งคำถามเป็นประเด็นแยกรายข้อให้ชัดเจน โดยผมบอกกับกมธ.ฯ ไปแล้ว” นายประสาน กล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ