ข่าว

เทพสอบสวน เปิด6หลักฐานเด็ด พิพากษา นวัธ เตาะเจริญสุข

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เทพสอบสวน เปิด 6 หลักฐานเด็ด พิพากษา "นวัธ เตาะเจริญสุข" โดย... กวินทรา ใจซื่อ

 

 

 

          คำพิพากษาประหารชีวิต นวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.คนดังเมืองหมอแคน แห่งพรรคเพื่อไทย เขย่าภาพลักษณ์วงการผู้แทนฯ เสียยับเยิน


          นวัธ ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ในคดีจ้างวานฆ่า สุชาติ โคตรทุม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 

 

 

          ขณะผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุอีก 5 คน ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้วให้ประหารชีวิต พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม อดีตรอง ผกก.(ป) สภ.หนองเรือ และจำคุกตลอดชีวิต ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล อดีต ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หนองเรือ ประพันธ์ ศรีพิลัย และ บุญช่วย จูงกลาง ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะนี้ทั้งหมดจำคุกอยู่ที่เรือนจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา 


          ส่วน ปิยพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ศาลเห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานที่โยงว่าก่อเหตุจึงให้ปล่อยตัว


          คดีจ้างวานฆ่าปลัด อบจ.ขอนแก่น เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ได้รับความสนใจมากเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่รายละเอียดบางประเด็นที่เคยมีการตั้งข้อสงสัยยังไม่ได้ถูกพูดถึง  โดยเฉพาะกระบวนการติดตามตัวคนร้าย จนนำไปสู่การจับกุม กระทั่งคดีขึ้นสู่ศาลนั้น ผู้ที่กุมข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐาน และทำสำนวนคดีทั้งหมด คือ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ขณะดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองอุทธรณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือเป็นมือหนึ่งงานสอบสวนและเป็นผู้ไขคดีสำคัญทั้งในพื้นที่อีสาน และทั่วประเทศ

 

 

 

เทพสอบสวน เปิด6หลักฐานเด็ด พิพากษา นวัธ เตาะเจริญสุข

 


          ผลงานชิ้นโบแดงของ พล.ต.ต.ไพโรจน์ มีทั้งหัวหน้าชุดสอบสวนรื้อคดีครูจอมทรัพย์ สรุปสำนวนคดีแก๊งเปรี้ยวฆ่าหั่นศพ ทำสำนวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง จากอุดรธานี ไปหนองบัวลำภู และมีส่วนร่วมในหลายคดีในนามหัวหน้าชุดสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ได้รับการยอมรับและกล่าวขวัญถึงว่าเป็น “เทพสอบสวน”

 



          พล.ต.ต.ไพโรจน์ ย้อนรอยคดีจ้างวานฆ่าปลัด อบจ.ขอนแก่น เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ว่าหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ สภาพศพ และพยานแล้ว พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภาค 4 ขณะนั้น ได้เรียก 5 มือปราบสำคัญ คือ พล.ต.ต.ยรรยง  เวชโอสถ รองผู้บังคับการชุดสืบสวนภาค 4 พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส. กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธุ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น มาร่วมทำคดี โดยตั้งคณะทำงานมีทั้งชุดสอบสวนและสืบสวน จาก สภ.เมืองขอนแก่น ตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น และตำรวจภูธรภาค 4


          จุดเริ่มต้นการสืบสวนเริ่มจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านพักของปลัดสุชาติ ปรากฏภาพชาย 2 คน ลงจากรถเดินเข้ามาประชิดตัวปลัดสุชาติ ใช้เวลาเพียง 30 วินาที ใช้ปืนยิง 10 นัด กระสุน 2 นัดที่ถูกจุดสำคัญ ทีมงานสันนิษฐานว่าประเด็นสังหารมาจากเหตุชู้สาวแน่นอน


          จากนั้น พล.ต.ต.ศักดา ประชุมสั่งการให้ลงมือตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งการใช้เส้นทางของรถสีดำคันก่อเหตุ โดยแบ่งงานให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุด ทั้งก่อน ระหว่างและหลังก่อเหตุ สภ.เมืองขอนแก่น ตรวจสอบจากซอยกสิกรทุ่งสร้าง 20 ย้อนกลับไปว่ามีต้นทางมาจากทางใด ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดให้ดูจากจุดที่เกิดเหตุ ว่าคนร้ายขับหลบหนีทางใด และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ตรวจสอบเส้นทางโดยรอบจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง


          ผลการตรวจสอบพบคนร้ายขับรถออกจากซอยกสิกรทุ่งสร้าง เลี้ยวซ้ายใช้เส้นทางประชาสโมสร แล้วเข้าไปจอดรถที่ปั๊มน้ำมัน จึงดูกล้องภายในปั๊มอย่างละเอียดในวันนั้นพบว่ามีรถจอดอยู่ 3 คัน คือรถฟอร์ด สีแดง รถฮอนด้า แจ๊ส และโตโยต้า วีโก้ พรีรันเนอร์ สีดำที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ 


          เมื่อตรวจสอบพบว่ามี 2 คันที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเจ้าของเป็นใคร พบมีการดัดแปลงสภาพ ปลอมแปลงทะเบียนรถ ตรวจสอบได้เพียงรถฟอร์ด สีแดง เท่านั้น จึงประสานเจ้าของมาให้ข้อมูล

 

 

 

เทพสอบสวน เปิด6หลักฐานเด็ด พิพากษา นวัธ เตาะเจริญสุข

 


          พล.ต.ต.ไพโรจน์ บอกว่า ช่วง 2-3 วัน ก่อนการจับกุมผู้กระทำผิด ตำรวจทำงานอย่างหนักจนได้เบาะแสสำคัญเชื่อมโยงไปยังคนร้ายในหลายประเด็น คือ


          เบาะแสที่ 1 หลังจากที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในปั๊ม พบว่าชายที่ขับรถฮอนด้าแจ๊ส ปรากฏใบหน้า ด.ต.วีระศักดิ์ ซึ่ง พ.ต.อ.ไพโรจน์ รู้จักดี เพราะเป็นลูกน้องเก่า เคยทำงานด้วยกันที่ สภ.หนองหิน ก่อนก่อเหตุประมาณ 1 เดือน ด.ต.วีระศักดิ์ ขอให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ช่วยทำบันทึกจับกุมในคดียาเสพติด จึงได้ไปทำสำนวนที่ สภ.หนองเรือ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกรายสวมหมวกปิดบังใบหน้าทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร


          เบาะแสที่ 2 หลังการเสียชีวิตของปลัดสุชาติ ตำรวจหญิงในทีมสืบสวนบอกว่า มีดาบตำรวจของ สภ.เมืองขอนแก่น รายหนึ่งมาขอเบอร์โทรศัพท์ปลัดสุชาติ อ้างว่า ส.ส.นวัธ บอกว่าหมอดูทักว่าภรรยาจะนอกใจ จึงต้องการให้ติดตามความเคลื่อนไหวของภรรยา


          เบาะแสที่ 3 พยานในปั๊มน้ำมันที่เห็นหน้าคนร้ายเป็นผู้กำกับการแสดง จึงมีทักษะการจดจำใบหน้า บุคลิกลักษณะของผู้ต้องสงสัยได้อย่างแม่นยำ และสามารถสเก็ตช์ภาพคนร้ายได้เหมือนจริง เมื่อเห็นภาพของพ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม สามารถจำได้ทันที พยานรายนี้บอกว่า เพราะมีลักษณะเหมาะไปรับบทคนร้าย


          เบาะแสที่ 4 ประสานชุดสืบสวน สภ.หนองเรือ มาให้ข้อมูล เมื่อตำรวจหนองเรือเห็นภาพผู้ต้องสงสัยที่หมวกและกระเป๋า ทำให้รู้ทันทีว่าหมวกที่ผู้ต้องสงสัยสวมใส่นั้นเคยเห็นในห้องสืบสวน ที่ สภ.หนองเรือ ส่วนกระเป๋าเป็นของดาบตำรวจนายหนึ่งที่ซื้อให้ พ.ต.ท.สมจิตร


          เบาะแสที่ 5 ตรวจสอบเส้นทางของรถฮอนด้าแจ๊ส พบว่า ด.ต.วีระศักดิ์ ขับมาตามเส้นทางมายัง สภ.หนองเรือ สอบถามร้อยเวรทราบว่า เป็นรถที่ สภ.หนองเรือ ยึดมา จากนั้น พ.ต.ท.สมจิตร ขอยืมใช้ แล้วนำไปให้ ด.ต.วีระศักดิ์ ขับ เมื่อตรวจสอบรถฮอนด้าแจ๊ส พบว่ามีการนำสติกเกอร์ไปปิดที่ทะเบียน เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ


          เบาะแสที่ 6 ข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ พบว่ากลุ่มผู้ยิงและผู้จ้างวานอยู่ในบริเวณเดียวกัน ใช้เสาส่งสัญญาณเดียวกัน เชื่อว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน หลังก่อเหตุก็ขับรถตามชุดที่ยิงไป


          “ช่วงแรกเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัด เมื่อให้พยานดูก็บอกว่าคล้ายดาบตำรวจที่มาขอเบอร์โทรศัพท์ของปลัดสุชาติ จึงได้ขอหมายจับ ด.ต.วีระศักดิ์ และดาบตำรวจที่ทำงาน สภ.เมืองขอนแก่น แต่ระหว่างที่ขอหมายจับนั้น ชุดสืบของ สภ.หนองเรือ เห็นหมวกและกระเป๋าแล้วเป็นของรองสมจิตร เมื่อมีข้อมูลจึงเชิญพยานที่อยู่ในปั๊มมาสอบถามเพิ่มเติม โดยให้ดูภาพรองสมจิตร ซึ่งพยานยืนยันทันทีว่าใช่แน่นอน จึงรีบทำเรื่องขอหมายจับรองสมจิตร พร้อมถอนหมายจับดาบตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น จึงมี 2 หมายจับในวันเดียวกัน” พ.ต.อ.ไพโรจน์ ย้อนเหตุการณ์


          พล.ต.ต.ไพโรจน์ เล่าว่า ระหว่างที่ออกหมายจับ ตำรวจเริ่มมีเค้าลางว่าใครเป็น ผู้บงการจ้างวานฆ่า ปลัดสุชาติ แล้ว โดยตามแกะรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือของ ด.ต.วีระศักดิ์ และเบาะแสที่ดาบตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ขอหมายเลขโทรศัพท์ของปลัด อ้างว่า ส.ส.นวัธ ไปดูหมอดูบอกว่าภรรยาจะนอกใจ จึงให้ติดตามความเคลื่อนไหวของภรรยา 


          นอกจากนี้หลังออกหมายจับได้ตรวจสอบพบว่า พ.ต.ท.สมจิตร มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ ส.ส.นวัธ ที่เคยช่วยเหลือเรื่องหน้าที่การงาน


          พ.ต.อ.ไพโรจน์ เชื่อว่าหลักฐานที่ศาลพิจารณานำไปสู่การตัดสินประหารชีวิต คือ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยหลังจากก่อเหตุเพียง 3 นาที พบว่ากลุ่มผู้ยิงและผู้จ้างวานอยู่ในบริเวณเดียวกัน ใช้เสาส่งสัญญาณเดียวกันที่บริเวณบ้านดอนหญ้านางเส้นทางไปค่ายศรีพัชรินทร์ แสดงว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน หลังก่อเหตุก็ขับรถตามชุดที่ยิงไป ทำให้มั่นใจว่าคดีนี้สามารถเอาผิดคนร้ายได้ทั้งหมด 


          “หลังจากศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต พ.ต.ท.สมจิตร แล้ว ทำให้เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ทำสำนวนส่งฟ้องผู้บงการ ศาลจะตัดสินประหารชีวิตเช่นกันเพราะเมื่อศาลตัดสินประหารชีวิตคนยิงแล้ว คนจ้างวานน่าจะได้รับโทษไม่ต่างกัน” พ.ต.อ.ไพโรจน์ กล่าวอย่างมั่นใจ 


          การทำงานอย่างเป็นระบบ รวมทั้งความละเอียดรอบคอบของตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้คดีมีความสมบูรณ์ โดยชุดสอบสวนจะระบุความต้องการ ชี้ช่องทางการติดตาม ขณะที่ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานรายละเอียดทั้งหมด จึงทำให้สำนวนในคดีจ้างวานฆ่า สุชาติ โคตรทุม ปลัด อบจ.ขอนแก่น เป็นกรณีศึกษาว่าด้วยการทำสำนวนคดีการใช้จ้างวาน ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ที่เข้าอบรมที่ วิทยาลัยการตำรวจ ได้นำไปปรับใช้เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งต่อเจ้าของคดีและประชาชน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ