ข่าว

ตั้งอนุกก.สอบข้อเท็จจริงผู้พิพากษายะลายิงตัวเอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มติที่ประชุมก.ต.ตั้ง "3 ก.ต.ฎีกา-อุทธรณ์-ชั้นต้น" เป็นอนุกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุ "ผู้พิพากษายะลา" ยิงตัวเองในบัลลังก์ บาดเจ็บ พร้อมให้รายงานผลเสนอ ก.ต.15 วัน

 

                7 ต.ค.2562-ที่ห้องประชุมศาลฎีกา สนามหลวง "นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์" ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เป็นประธานการประชุม ก.ต.ทั้งคณะ ครั้งที่ 15/2562 พิจารณาวาระต่างๆ อาทิ การมีมติให้ความเห็นชอบปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และแนวทางการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ , การมติเห็นชอบรายงานผลการดำเนินการของ อ.ก.ต. เพื่อกลั่นกรองคุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัว จำนวน 8 ศาล

 

 

                 โดยการประชุมในช่วงบ่าย วันนี้ "นายสราวุธ เบญจกุล" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการ ก.ต. ได้รายงานให้ที่ประชุม ก.ต.รับทราบ เกี่ยวกับประมวลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเพื่อพิจารณากรณีที่นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.62 ภายในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดยะลา หลังจากที่นายคณากรได้อ่านคดีพิพากษาฆาตกรรม 5 ศพเสร็จ

ตั้งอนุกก.สอบข้อเท็จจริงผู้พิพากษายะลายิงตัวเอง

 

                 ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น เมื่อเวลา 17.00 น.เศษ "นายสราวุธ เบญจกุล" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุม ก.ต.ในวันนี้ ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 15 คนได้มาประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งหลังจากที่ได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมตามที่ฝ่ายเลขาฯ ได้แจ้งไปล่วงหน้าเสร็จสิ้นแล้ว ตนได้แถลงสรุปข้อเท็จจริงกรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.62 ให้ที่ประชุม ก.ต. ทราบ และภายหลังจาก
ที่ประชุม ก.ต. รับทราบข้อมูลและพิจารณาแล้ว มีมติให้ตั้งอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมวิสามัญ 
ซึ่งประกอบด้วย ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 คน เป็นอนุกรรมการวิสามัญ

 

                 ประกอบด้วย นางวาสนา หงส์เจริญ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลฎีกา เป็นประธานอนุกรรมการวิสามัญ , นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลอุทธรณ์ เป็นอนุกรรมการวิสามัญ , นายสุวิชา สุขเกษมหทัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลชั้นต้น เป็นอนุกรรมการวิสามัญ

 

ตั้งอนุกก.สอบข้อเท็จจริงผู้พิพากษายะลายิงตัวเอง

 

                 โดยกำหนดให้อนุกรรมการวิสามัญ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และรายงานให้ ก.ต. ทราบภายใน 15 วัน ทั้งนี้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมสำนักงานศาลยุติธรรมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุนายคณากร ยิงตัวเองนั้นเกิดขึ้นวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รีบส่งตัวรับการรักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์ยะลาโดยด่วน ซึ่งขณะนี้อาการของนายคณากรปลอดภัยแล้ว ล่าสุดวันที่ 5 ต.ค. ก็ได้ย้ายการรักษาจากห้องไอซียู (ICU) มาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย (แบบห้องพักพิเศษ) ภายใต้การดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดของคณะแพทย์และครอบครัว โดยช่วงที่มีข่าวเกิดเหตุดังกล่าวในสังคมออนไลน์ ได้เผยแพร่เอกสาร 25 หน้าที่อ้างเป็นแถลงการณ์ของนายคณากร เคยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อบัญชี "คณากร ตุลาคม" ก่อนอ่านพิจาณาคดีตัดสินคดีดังกล่าว ระบุถึงความกดดันการพิจารณาคดีที่อ้างถูกแทรกแซงจากผู้บังคับบัญชา และข้อเรียกร้องถึงสภานิติบัญญัติ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยภายหลังเกิดเหตุไม่พบโพสต์ดังกล่าวในชื่อเฟซบุ๊กดังกล่าว

                 อย่างไรก็ดี "นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล" โฆษกศาลยุติธรรม ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ "นายไสลเกษ" ประธานศาลฎีกา ได้เปิดรับฟังข้อเสนอแนะหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน ให้แสดงความคิดเห็น สภาพปัญหา และข้อเสนอแนะ ตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งวันที่ 1 ต.ค.62 ที่ผ่านมา เพื่อนำข้อเสนอมาประมวลผล เป็นนโยบายประธานศาลฎีกาต่อไปด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จนถึงวันที่ 5 ต.ค. ตามกำหนดสิ้นสุดการรับข้อเสนอและความคิดเห็นเพื่อกำหนดนโยบายประธานศาลฎีกา มีจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจความคิดเห็น ทั้งสิ้นจำนวน 567 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรในศาลยุติธรรม จำนวน 354 คน คิดเป็นร้อยละ 62.4 และในส่วนของประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลยุติธรรม มีจำนวน 213 คน คิดเป็นร้อยละ 37.6 โดยคิดเฉลี่ย 5 วันมีการส่งความคิดเห็นมาประมาณ วันละ 113 คน

                 โดยหลังจากนี้ สำนักประธานศาลฎีกา จะประมวลผลข้อมูล เสนอนายไสลเกษ ประธานศาลฎีกา เพื่อประกาศเป็นนโยบายประธานศาลฎีกา และนำไปสู่การปฏิบัติข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ