เตือนแล้วไม่ฟัง ฉุนชวนลูกยุ่งยา คว้าลูกซองยิงดับ

 

               วันที่ 15 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวนายคำจันทร์ โพธิ์ถาวร อายุ 49 ปี ชาว ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายจิรายุส บุษดี อายุ 42 ปี ขณะนอนอยู่ในเปลญวนข้างยุ้งข้าว ในบ้านพักตนเอง บ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 21.30 น.

 

 

 

               โดยนายจิรายุส บุษดี ได้รับบาดเจ็บถูกยิง โดยกระสุนเข้าบริเวณขมับขวาทะลุซ้าย แล้วญาติได้นำตัวส่ง รพ.หนองหาน อาการไม่ดีขึ้น แล้วส่งต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ในเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 15 สิงหาคม แต่นายจิรายุส ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

 

 

 

 

               เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองหาน สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายจิรายุส บุษดี ได้ตัวที่บ้านพัก บ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก  ทราบชื่อคือนายคำจันทร์ โพธิ์ถาวร อายุ 49 ปี ก่อนควบตัวมาโรงพัก

 

 

 

 

               จากการสอบสวนนายคำจันทร์ ให้การรับสารภาพว่า ได้นำอาวุธปืนลูกซองยาวยิงนายจิรายุส จริง เนื่องจากโมโหที่ลูกชายของตน อายุ 14 ปี ไปติดพันกับผู้ตาย ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถึงกับออกจากโรงเรียน ตนกลัวว่าลูกชายจะมาตกเป็นเครื่องมือในการส่งของผิดกฎหมาย ตนเคยบอกทั้งลูกชายและผู้ตายว่า อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก แต่ทั้งสองคนก็ไม่เลิกคบกัน ด้วยความรักลูกชายกลัวว่าจะตกเป็นเครื่องมือผู้ตาย จึงตัดสินใจนำอาวุธปืนไปซุ่มอยู่ที่กำแพงเพื่อยิงนายจิรายุส ขณะที่นอนอยู่เปลญวณ ทำให้กลิ้งลงมาที่พื้น ซึ่งตนทำลงไปด้วยความรักลูก

 

 

 

 

 

               ในขณะที่ตำรวจนำตัวนายคำจันทร์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักที่เกิดเหตุเลขที่ 113 ท่ามกลางชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะทุกคนทราบดีว่านายคำจันทร์ เป็นคนดี การตัดสินใจทำในครั้งนี้เพราะรักลูกชาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยาววางที่รั้วกำแพงส่องยิงนายจิรายุส ขณะนอนเล่นอยู่เปลญวณข้างยุ้งข้าว โดยได้ยิงเพียงแค่นัดเดียว ก่อนที่จะนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซุกซ่อนใต้ถุงยุ้งข้าวหลังบ้าน

 

 

 

 

               พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้เร็ว เนื่องจากพอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนมูลเหตุที่ฆ่ากันตายนั้น นายคำจันทร์ รักลูกชายมาก มีความเป็นห่วงว่าลูกชายจะไปยุ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก และรู้สึกโกรธแค้นผู้ตายที่สะสมมานาน เพราะผู้ตายได้ชักชวนลูกชายของนายคำจันทร์ ส่งสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติด

 

 

 

 

               โดยนายคำจันทร์ ได้ไปตักเตือนผู้ตายแล้วว่าอย่ามาชวนลูกชายไปในทางที่ผิด แต่ผู้ตายไม่ฟัง ยังชักชวนลูกชาย นายคำจันทร์ ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนไม่กลับบ้าน ทำให้นายคำจันทร์ เก็บความแค้นเอาไว้ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จึงได้นำอาวุธไปดักซุ่มยิงผู้ตายข้างกำแพง หลังจากนำตัวนายคำจันทร์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป