ข่าว

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่รอด ตม.รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ หลอกเหยื่อชาติเดียวกันโอนเงินกว่า 20 ราย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท

 

                ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดนั้น

 

 

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

 

 

 

                สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 , พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รอง ผบก.สกส.บช.ปส. ปฏิบัติราชการ สตม. , พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 , พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.ตม.จว.ชลบุรี , พ.ต.อ.ปรม พฤทธิกุล ผกก.ฝอ.บก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.บช.ส. , พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.ฝอ.ศทก. ปฏิบัติราชการ สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้

 

 

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

 

 

                สืบเนื่องเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ได้รับคำสั่งให้สืบสวนติดตามกลุ่มบุคคลชาวไต้หวันที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำผิด ข่มขู่เรียกเงินคนชาติเดียวกัน หลังจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย ว่ามีกลุ่มคนร้ายชาวไต้หวันได้ตั้งฐานศูนย์โทรศัพท์ (Call Center) ในประเทศไทยแล้วโทรศัพท์ผ่านระบบโทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต หรือ วีโอไอพี (VOIP : Voice Over Internet Protocol) ไปหลอกลวงเหยื่อชาวไต้หวัน โดยปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสุขภาพ หลอกเหยื่อว่าบัตรประกันสุขภาพของเหยื่อถูกขโมย หลังจากนั้นมีการโอนสายที่สอง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบอกเหยื่อว่าอัยการที่ดูแลเรื่องนี้ให้มาศาล จึงทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ต่อมาจึงส่งแฟกซ์ซึ่งเป็นหนังสือราชการปลอมให้กับเหยื่อ เหยื่อจึงหลงเชื่อคิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงมีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของไต้หวันที่เปิดรองรับไว้ แล้วมีกลุ่มคนร้ายอีกกลุ่มถอนเงินออก เบื้องต้นกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้หลอกลวงเหยื่อตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม 2561 ถึงปัจจุบัน ความเสียหายที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ที่ไต้หวันแล้ว จำนวน 21 ราย รวมความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท ผบช.สตม.จึงได้สั่งการให้ชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายตั้งฐานเป็นศูนย์โทรศัพท์อยู่ในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ อยู่หมู่ที่ 4 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี สืบสวนพบชาวไต้หวัน จำนวน 13 คน เป็นบุคคลมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม ผบก.ตม.3 จึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมกักตัวไว้ที่ห้องกัก สตม. เพื่อรอผลักดันส่งกลับไต้หวันต่อไป

 

 

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

 

 

 

                จากการตรวจสอบบ้านพักที่เป็นศูนย์โทรศัพท์ (Call Center) พบของกลางที่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดในการหลอกลวงผู้เสียหายชาวไต้หวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 44 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 10 เครื่อง , เครื่องปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ต (เร้าเตอร์) จำนวน 17 เครื่อง , กล่อง Voip Gateway จำนวน 23 กล่อง , เครื่องโทรศัพท์บ้าน จำนวน 43 เครื่อง , ซิมการ์ดที่ยังไม่ได้ใช้งาน เครือข่าย Dtac  จำนวน 5 ชิ้น , ซิมการ์ด Roaming ยี่ห้อ Blackberry จำนวน 4 ชิ้น , เครื่องบันทึกเสียงไม่ทราบยี่ห้อ จำนวน 3 เครื่อง , แผ่นกระดาษและสมุดจดบันทึกเป็นภาษาจีน (สคริปต์บทสนทนาหลอกลวง) จำนวนมาก , หนังสือจิตวิทยาขั้นสูงในการก่ออาชญากรรม ฉบับภาษาจีน จำนวน 1 เล่ม และแฟลชไดร์ฟ จำนวน 3 ชิ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ความสำคัญกับคดีนี้มากใช้ระยะเวลาในการสืบสวนติดตามเป็นระยะเวลานานเนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีความสามารถในการหลบซ่อนและหลอกลวงเหยื่อจำนวนมากมีมูลค่าความเสียหายสูง โดยในวันนี้ทางการไต้หวันได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวัน จำนวน 5 นาย เดินทางเข้าพบ ผบช.สตม. เพื่อประสานงานและขอตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตรวจยึดไว้ ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนขยายผลประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง

 

 

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

 

 

                "สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th"

 

 

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ตั้งฐานในไทยหลอกโอนเงิน

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ