ขอนแก่น - คมข่าวทั่วไทย
วันที่ 14 ส.ค. 2562 รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น เปิดถึงกรณีการทุจริตสนามฟุตซอลที่มีการตรวจพบในหลายพื้นที่ว่า จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า การทุจริตคอร์รัปชันจากการก่อสร้างสนามฟุตซอล นับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบในภาคการศึกษา เนื่องจากการทุจริตประเภทนี้มีการเตรียมการและมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องหลายฝ่าย แล้วมีการร่วมมือกันทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ การทุจริตประเภทนี้นับวันจะมีความแยบยลมากยิ่งขึ้น
ในการทุจริตจากการก่อสร้างสนามฟุตซอล ยังมีเรื่องเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กลุ่มอิทธิพลในที่นี้คือ กลุ่มคนที่มีอำนาจ ได้แก่ นักการเมือง, ข้าราชการระดับสูง, และนักธุรกิจในเครือข่ายของเขา เมื่อมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล ก็มีแนวโน้มที่จะใช้อำนาจมิชอบทุกรูปแบบ และทุกวิถีทาง เพื่อทำให้บรรลุถึงเป้าหมายของกลุ่มตน ซึ่งก็คือการได้ผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าการกระทำหรือการใช้อำนาจนั้นจะผิดกฎหมาย หรือละเมิดจริยธรรมของสังคมก็ตาม ซึ่งสื่อความหมายได้ชัดเจนว่า พฤติกรรมการใช้อำนาจของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล มักกระทำการใดๆที่ผิดกฎหมาย หรืออยู่เหนือกฎหมายเสมอ กล่าวอย่างง่ายว่า เครือข่ายกลุ่มอิทธิพล มักหากินกับเรื่องทุจริตและผิดกฎหมายอยู่เสมอ
รศ.ดร.พรอัมรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ในกระบวนการทุจริตจากโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล เริ่มต้นจากมีนักการเมืองบางราย ได้แปรญัตติงบประมาณปี 2555 ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยการอ้างว่าเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นำไปดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน และการก่อสร้างสนามฟุตซอล และการจัดซื้ิอครุภัณฑ์กีฬาลงสู่โรงเรียน หลังจากนั้นมีกลุ่มนักการเมืองบางรายได้เข้ามาติดต่อประสานงานกับกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาทั้งระดับประถมและมัธยม และใช้อิทธิพลโน้มน้าวจูงใจให้ผู้บริหารสถานศึกษารับข้อเสนอโครงการประมูลงานก่อสร้าง และการจัดซื้ิอครุภัณฑ์กีฬา จากบริษัทเครือข่ายที่เป็นพรรคพวกของตนเอง
ส่วนพฤติการณ์ทุจริตของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลที่เห็นได้ชัด เช่น กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มีลักษณะมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคา ที่เป็นพรรคพวกเครือข่ายของตน ให้เป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ, การก่อสร้างขั้นพื้นฐานสนามคอนกรีตไม่เป็นไปตามรูปแบบมาตรฐาน, และเจ้าของบริษัทที่เป็นคู่สัญญาก่อสร้างสนามฟุตซอลกับทุกโรงเรียน มีเหตุอันน่าเชื่อได้ว่า มีความเชื่อโยงในลักษณะการเป็นเครือข่ายเดียวกัน , และบางบริษัทผู้ก่อตั้งเป็นนักการเมืองสังกัดพรรคขนาดใหญ่รายหนึ่งในภาคอีสาน เป็นต้น
"โดยสรุปแล้ว การทุจริตจากโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล นับเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดอีกรูปแบบหนึ่ง ของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซึ่งนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบของภาคการศึกษา ที่มีกลุ่มอิทธิพลต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องเต็มรูปแบบ อันได้แก่ หนึ่ง นักการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น สอง ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สาม นักธุรกิจในเครือข่ายบางราย กรณีการทุจริตในจ.นครราชสีมา เขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 ที่มีการชี้มูลความผิดจากสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นเพียงกรณีหนึ่งของการทุจริตเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน ที่มีการวางแผนการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ และถ้าศึกษาเจาะลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตอีกเป็นจำนวนมาก อันสะท้อนให้เห็นว่า การทุจริตคอร์รัปชันในยุคหลัง ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนต่อคนอีกต่อไป หากแต่กระทำกันในรูปเครือข่าย และมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและเป็นเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลอย่างชัดเจน หากปล่อยให้เกิดเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลเช่นนี้ในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบที่ตามมาคือ เกิดความเสื่อมทางสังคม และปัญหาพื้นฐานทางสังคมอื่นๆของชาติจะถูกกัดกร่อน ในท้ายที่สุดย่อมส่งผลกระทบโดยรวมต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติเป็นอย่างมาก" รศ.ดร.พรอัมรินทร์ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง