ข่าว

(คลิป)ยังเปิดฟังต่างชาติเสนอเทคนิคปลูกกัญชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนุทิน-ประภัตร"พร้อมเปิดกว้างรับฟังทีมนักวิจัยต่างชาติ เสนอเทคนิคปลูกกัญชาเพื่อรักษาโรค เล็งขยายส่งออกกัญชา-กัญชง สร้างรายได้ถึงมือเกษตรกรไม่เอื้อนายทุน

 

30 กรกฏาคม 2562  ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกและรมว.สาธารณสุข นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตร ฯแถลงข่าวภายหลังรับฟังกลุ่มนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญชาวสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล 

 

ที่ได้บรรยายถึงเทคโนโลยีการปลูกและผลิตยาจากสารสกัดกัญชา ที่มีความสนใจกัญชาสายพันธุ์ไทย มีผลผลิตดีด้วยสภาพภูมิอากาศที่เอื้อหากมีการปลูกที่มีมาตรฐาน ไม่มีโลหะหนักปนเปื้อน ทำให้ได้สารจากกัญชาที่ดีที่สุดในโลก ใช้ในการรักษาโรค

 

นายประภัตร กล่าวว่าทีมธุรกิจและนักจากนักวิจัยชุดนี้ มีผลิตภัณฑ์ด้านสารสกัดจากกัญชาที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผลิตกัญชา ทั้งในสหรัฐฯอิสราเอล และยุโรป ส่งเสริมเกษตรกรผลิต มีรายได้ ทำมา 30 ปี ซึ่งวันนี้เขามาบอกประเทศไทยว่าประวัติการผลิตกัญชาของเขาเป็นมาอย่างไร ซึ่งเขาบอกไทย มีพันธุ์ดีที่สุด ภูมิอากาศเหมาะสมในการปลูกพื้นที่เปิด ส่วนฝ่ายไทยได้บอกปัญหาอุปสรรค ในแง่กฏหมาย และมองแนวทางการปลูกจะให้ถึงมือเกษตรกร ได้ปลูกไปแล้วไปไหน ผลิตแล้ว นำไปใช้ทำยา ใช้ในประเทศอย่างเดียวไม่ได้ ต้องส่งออก ไปดำเนิการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อุตสาหกรรมยา มากมาย เป็นขั้นตอนต้องเดินหน้าต่อไปถึงมือเกษตรกรมีความหวังมีรายได้จากกัญชา

 

ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า ขอบคุณรมช.เกษตร มีความหวังดีต้องการเห็นเกษตรกรมีทางเลือกรายได้ จึงนำนักวิจัยมาพบ ไม่ใช่เศรษฐีอเมริกัน เราต้องเปิดกว้างรับเทคโนโลยีคนเหล่านี้มีความรู้ ประสบการณ์มาให้ข้อมูล ในต่างประเทศใช้กัญชาอย่างไร สารทีบีซีและสารเอชทีซี สรุปได้ทุกประเทศทั่วโลกหากใช้อย่างถูกวิธี สารสกัดมีประโยชน์ รักษาโรคที่มีความรุนแรง ตามสมมุติฐานโรค

 

“ประเทศไทยให้ใช้รักษาในรพ.ทำให้เราสบายใจขึ้น เพราะทุกภาคส่วนยืนยันมีประโยชน์ ปลัดสาธารณสุข รายงานว่าในวันสองวันนี้ หมอพื้นบ้านกว่า 3 พันคน ได้กลับไปรักษาคนใข้ได้ตามที่เคยรักษา นับเป็นสเต็ปแรก ทางการแพทย์แผนไทย เดินหน้าไป ยืนยันไม่เอื้อประโยชน์เอกชน หรือบุคคลใด โดยวันนี้ทีมวิจัยต่างชาติ มาแลกเปลี่ยนข้อมูลการแพทย์ เทคนิกการปลูก ซึ่งในอนาคตจะเป็นโอกาสสร้างรายได้ให้เกษตรกร ผมกับท่านประภัตร มาจากประชาชา ทำทุกอย่างคิดถึงเกษตรกร ไม่มีแม้แต่น้อยเอื้อให้นายทุน หรือกลุ่มบุคคลใด เพราะมาคิดทำงานให้ประเทศไทยทุกวัน”นายอนุทิน กล่าว

 

นายอนุทิน กล่าวว่า การพัฒนาสายพันธุ์กัญชา กัญชง ของไทยเพื่อทางการแพทย์ จะต้องไปให้ถึงส่งออกได้ เพราะการผลิตสารซีบีดี ไม่พอ ซึ่งเขาเชื่อว่าสายพันธุ์ไทยเอาวัถตุโลหะหนักออกไป ได้ จะเป็นสายพันธุ์ที่มีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งเรื่องความก้าวหน้าอย่างนี้ต้องรับฟัง ไม่อย่างนั้นวันๆจะไม่ให้ตนพบใครก็ไม่ได้ จะคุยกับปลัดสธ.สองคนได้อย่างไร ในทางการแพทย์เพื่อมวลมนุษยชาติ

 

มีข้อยกเว้นอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา แคนนาดา เป็นประเทศที่ เป็นคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ มีสิทธิมนุษยชน สูงกว่าไทย ยังทำได้ ซึ่งไทยเองก็ต้องหาช่องทางอะไรที่ทำได้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน เกษตรกร หลังจากเริ่มใช้ในประเทศแล้ว จะส่งออก เพราะมีความต้องการมาก ปีละหลายพันล้านเหรียญ ซึ่งในส่วนติดอนุสัญญาต่างๆต้องหาทางแก้ไข โดยอันดับแรกต้องควบคุมอย่างดี ไม่มีตลาดมืดอย่างทุกวันนี้ขายกันทั่วต้องเอาขึ้นมาบนดินในส่วนที่เป็นประโยชน์ 

 

“เมื่อทางการแพทย์ทดลองแล้ว ได้ผลดี ต่างชาติอาจมาร่วมมือกับเรา โดยมีสถาบันโรงเรียนแพทย์ วิสาหกิจชุมชน  ตามขอบเขตของกฏหมาย อะไรที่นอกจากกรอบกฏหมาย ผมไม่ทำ เราให้การสนับสนุน การวิจัย ทดลองใช้ทางการแพทย์ หากมีช่องโหว่อะไรไม่ตามกฏหมายห้าม จะไม่ทำ  ในตอนนี้กำลังดูความต้องการจากต่างประเทศ ใช้ผลผลิตทางการเกษตร จากกัญชา กัญชง เพื่อมาสร้างรายได้เข้าประเทศ ทำไมไทยจะไม่เอา ให้เกษตรกรปลูก ซึ่งระหว่างนี้ได้เริ่มทางการแพทย์ มีขั้นตอนการขออนุญาต การขึ้นทะเบียน ใครปลูก โดยมีอสม.ล้านกว่าคนทั่วประเทศให้ความรู้ ต่อไปจะขยายไปยังครัวเรือน และเป็นอนุทินกัญชาโมเดล “นายอนุทิน กล่าว


นายประภัตร กล่าวอีกว่าขณะนี้ขั้นตอนกฏหมาย ให้เกษตรกร มาจดทะเบียน เป็นวิสากิจชุมชน โดยต้องมาขออนุญาต กับอย.เพื่อร่วมกับสถาบันวิจัยทางการแพทย์ เพื่อได้รู้ที่ไปของกัญชา ว่าไปใช้ทำยา ส่วนที่ชาวบ้านเข้าใจว่า ขึ้นทะเบียนแล้วปลูกได้ นั้นเข้าใจผิด ซึ่งนักธุรกิจ มาให้ความรู้ ถึงการปลูกที่ถูกต้อง และมีปริมาณคนซื้อจริง ต้องการสารซีวีดีรักษาโรคจำนวนมาก พร้อมที่จะมาวิจัยร่วมกับแพทย์ไทย 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ