ผบ.ตร.กำชับภาค 5 ติดตามช่วยเหลือ"สิงห์แก้ว" ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ขณะที่สภ.เชียงแสน ประสานเจ้าหน้าที่สปป.ลาว อำนวยความสะดวก พาญาติลงพื้นที่หาเหตุจูงใจถูกลักพาตัว
30 ก.ค.62-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึง ความคืบหน้าการช่วยเหลือประธานสมาคมส่งออกสัตว์ เชียงแสน ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ยังประเทศลาว ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.62 เวลา 19.00 น. จนท.ตำรวจ สภ.เชียงแสน ร่วมประชุมกับ นายอำเภอเชียงแสน และญาติของนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมให้ความช่วยเหลือ นายสิงห์แก้ว ที่ถูกลักพาตัวและเรียกค่าไถ่ จำนวน 5 ล้านนั้น เบื้องต้น ทางจนท.สปป.ลาว ได้ให้ข้อมูลว่ายังไม่พบ จุดที่ควบคุมตัวนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่
โดยในวันนี้ (30 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชียงแสน พร้อมด้วยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน และ ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงแสน ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สปป.ลาว อำนวยความสะดวก ในการจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย พาญาติ นายสิงห์แก้ว ลงพื้นที่ สปป.ลาว ประสานงาน เพื่อสอบถามข้อมูล ต่างๆ เกี่ยวกับการถูกลักพาตัว และแรงจูงใจ ในครั้งนี้ ประกอบกับ สภ.เชียงแสน ในฐานะผู้รับแจ้งเหตุ กำลังเร่งสอบปากคำญาติๆและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ในการดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดจนการสืบสวนขยายผล เพื่อพิสูจน์ทราบ กลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องดังกล่าว ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนในข้อมูลการสืบสวนสอบสวน และพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใด ในฐานความผิดใด ได้บ้าง
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับไปยัง กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน บูรณากับ ฝ่ายปกครอง ทหาร อย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือ ติดตาม ค้นหา และประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ตลอดจนการอำนวยความสะดวก การเดินทาง ให้เบาะแสข้อมูลของทางญาติและครอบครัว นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อีกทั้ง เร่งสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง