ข่าว

กองปราบจับหนุ่มขับรถหรูอ้างเป็นบิ๊กตำรวจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบจับหนุ่มขับรถหรู อ้างเป็นบิ๊กตำรวจ ก่อนค้นรถพบสิ่งผิดกฎหมายอื้อ

 

               เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก. 1 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก. 3 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สนับสนุน บก.ป.

 

กองปราบจับหนุ่มขับรถหรูอ้างเป็นบิ๊กตำรวจ

 

               แถลงผลจับกุมนายณัฐพงษ์ ธรรมทอง อายุ 37 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้บังคับการกองปราบ ก่อนขยายผลตรวจค้นพบอาวุธปืนกว่า 20 กระบอก พร้อมกัญชาและไอซ์ โดยจับกุมได้ที่อาคารที่จอดรถสนามบินดอนเมือง ของอาคารภายในประเทศ

 

               พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รับรถของสนามบินดอนเมืองว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม มีผู้ขับรถเบนซ์จีแอลซี 250 ดี สีดำ ป้ายแดงเข้าไปฝากจอดที่อาคารจอดรถสนามบินดอนเมือง อ้างตัวว่าเป็นผู้การกองปราบ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และเมื่อค้นภายในรถยนต์ พบเงินสด 7 ล้านบาท อาวุธปืน 5 กระบอก ไอซ์และอุปกรณ์การเสพ และตราสัญลักษณ์กองปราบปราม จึงจับกุมตัวไว้ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นที่บ้านพักและที่ทำงานรวม 3 จุด ใน กทม.

 

               พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อ ส่วนผลการตรวจที่บ้านพักและคอนโดมิเนียมในย่านรัชดาภิเษก และคันยายาว พบเงินสดอีก 3 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืนกว่า 20 กระบอก เป็นปืนแก็ปไม่มีทะเบียน 2 กระบอก เครื่องกระสุนอีกกว่า 2,000 นัด ป้ายทะเบียนรถอีกหลายแผ่น กัญชาแห้ง และกระบอกเก็บเสียง 3 ชิ้น ซึ่งจัดเป็นยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมาย

 

กองปราบจับหนุ่มขับรถหรูอ้างเป็นบิ๊กตำรวจ

 

               อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ ให้การปฏิเสธ ระบุว่าตนและคนในครอบครัวทำธุรกิจยี่ปั๊วซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลส่งให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จังหวัดเลย รวมถึงทำธุรกิจเกี่ยวกับรถตู้โดยสารวิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สมุทรสาคร และหมอชิต-สมุทรสาคร มีรถอยู่ประมาณ 50 คัน จำเป็นต้องมีอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันตัว ส่วนสาเหตุที่อ้างตัวเป็นผู้การกองปราบ ก็เพื่อความสะดวกต่อการพกพาหรือขนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย

 

               โดยตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบโพยหวยใต้ดินที่พบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมสืบสวนว่าผู้ต้องหาได้นำชื่อผู้บังคับการไปแอบอ้างการกระทำผิดใดอีกหรือไม่ ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาเป็นลูกน้องของอดีตนายทหารเสธรายหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงเตรียมขยายผลตรวจสอบว่าเคยมีส่วนกระทำผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลหรือไม่ เนื่องจากคำให้การกับหลักฐานที่พบไม่สอดคล้องกัน

 

               เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) และ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน), มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ป. ดำเนินคดี

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ