รักแท้เมียช่วยผัวหนีคุมขังคดียาบ้า

 

               วันที่ 19 กรกฎาคม 2562  ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.ยุทธิวัสส์ กล่ำกล่อมจิตร์ , พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป. , ร.ต.อ.อัคนี ณ บางช้าง , ร.ต.อ.ดิฐาศักดิ์ โชติเธียรศรณ์ , ร.ต.อ.เกียรติบดินทร์ วงศ์งาม , ร.ต.ต.สุชีพ ศรีคำมา รอง สว.กก.4 บก.ป. , ด.ต.เดชา คำรังษี , จ.ส.ต.พิภพ ศรีคำภา , จ.ส.ต.ศุภชัย กองแก้ว และ ส.ต.ท.ชัยรัตน์ ธรรมใจ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. กับพวก ร่วมกันจับกุม

 

 

 

               1. นายเพชร หูกขุนทด อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 6 ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ จ.56/2562 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่และหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) และขับขี่รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย”

               2. น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 7 ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ จ.62/2562 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
 

 

 

               ทั้งนี้ สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้งสอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้รับการประสานจาก สถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งได้หลบหนีการถูกคุมขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มีการจับกุมตัว นายเพชร หูกขุนทด พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 124 เม็ด ในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย”

               และในระหว่างที่ควบคุมตัวในชั้นจับกุมอยู่ที่ สภ.ด่านขุนทด นั้น ได้มี น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายเพชรได้เข้ามาเยี่ยมตามปกติ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่เข้ามาเยี่ยมนั้น นายเพชร และ น.ส.ลลิตา ได้แอบส่งสัญญาณและเตรียมการวางแผนเพื่อที่จะหลบหนีการควบคุมตัวดังกล่าว จนกระทั่งต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังนำตัวนายเพชรส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด นายเพชรได้ส่งสัญญาณให้ น.ส.ลลิตา เพื่อให้ไปเตรียมรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณด้านนอก สภ.ด่านขุนทด และเมื่อได้จังหวะและโอกาส นายเพชรจึงได้วิ่งหลบหนีการควบคุมตัวจนหลุดพ้นการควบคุมของเจ้าหน้าที่ แล้วไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ น.ส.ลลิตา ได้เตรียมไว้หลบหนีไป เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้

 

 

 

               จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตัวผู้กระทำผิดทั้งสองคน จนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้กระทำผิดทั้งสองคนได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บริเวณอพาร์ตเมนต์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. และสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดทั้งสองคนได้ในเวลาต่อมา

               ภายหลังการจับกุม นายเพชร และ น.ส.ลลิตา ได้รับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง และ น.ส.ลลิตา รับว่าตนได้คบกับนายเพชรมาเป็นเวลา 5 ปี และตนรู้สึกรักนายเพชรมาก เนื่องจากทั้งสองได้มีบุตรร่วมกัน 1 คน และจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงดูบุตรของตน ไม่อยากให้ภาระการเลี้ยงลูกตกไปอยู่กับญาติของตนด้วย จึงได้ตัดสินใจวางแผนร่วมกันกระทำผิดดังกล่าวขึ้น จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด จว.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป