นักวิทย์อเมริกันดับปริศนาในบังเกอร์อดีตนาซีที่ประเทศกรีซ

( ภาพ Facebook/ Searching for Suzanne ) 

ซูซาน อีตัน เป็นหัวหน้าทีมวิจัย สถาบันพันธุกรรมและชีววิทยาเซลล์โมเลกุลแมกซ์แพลงค์ มหาวิทยาลัยเดรสเดน ประเทศเยอรมนี ที่อยู่ระหว่างร่วมประชุมที่วิทยาลัยออร์โธดอกซ์บนเกาะครีต ( Crete )  ประเทศกรีซ ก่อนหายตัวไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 

 

 

 

ทางการท้องถิ่นออกค้นหาครั้งใหญ่ ขณะที่ครอบครัวของนักวิทยาศาสตร์ เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน เปิดเพจเฟซบุ๊ก ประสานการค้นหา และประกาศมอบเงินรางวัล 5 หมื่นยูโรแก่ผู้ที่ให้เบาะแส  

กระทั่งเมื่อวันจันทร์ หรือ 6 วันให้หลัง จึงพบร่างของเธออยู่ในบังเกอร์หลบภัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ถูกทิ้งร่าง  ห่างราว 11 ก.ม. จากที่พักหรือจุดที่พบเห็นเธอครั้งสุดท้ายซึ่งอยู่บนเกาะเดียวกัน ตำรวจกรีซเปิดเผยว่า เธอเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ และเปิดสอบสวนเป็นคดีฆาตกรรมแล้ว 

รายงานระบุว่า คนที่พบศพเธอเป็นชาวบ้านสองคนที่เข้าไปสำรวจบังเกอร์ ซึ่งเป็นถ้ำที่คนขุดไว้ และนาซีเคยใช้ในช่วงยึดครองเกาะครีตในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบัน มีถนนเข้าถึงได้ และพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ 

 

 

เวบไซต์สื่อกรีซ Cretalive และ Greek Reporter  รายงานว่า ผลชันสูตรศพพบว่าเธอเสียชีวิตจากถูกทำให้หายไม่ออก และไม่มีร่องรอยบาดแผล ศพของเธอมีผ้าหนาคลุมไว้ ทำให้ตำรวจสรุปว่านักชีววิทยาจากสถาบันวิจัยแถวหน้าของโลก ถูกฆาตกรรม และกำลังสอบว่าเสียชีวิตภายในบังเกอร์ หรือถูกฆาตกรรมแล้วนำไปศพไว้ที่นั่น  

นางอีตัน เป็นภรรยาโทนี ไฮแมน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ มีบุตรชาย 2 คน ครอบครัวของเธอระบุว่า อีตันมักจะออกไปวิ่งทุกวัน ประมาณ 30 นาที และเชื่อว่าเธอหายตัวไประหว่างออกไปวิ่งในระยะ 5 ก.ม.จากวิทยาลัย และจากสภาพพื้นที่เป็นหินขรุขระและร้อนจัด เป็นไปได้ที่เธออาจไปหาที่ร่มหลบร้อน หรืออาจเป็นลม แต่ที่สุด ก็พบว่าเธอถูกฆาตกรรม