ทนายรณณรงค์ พาผู้เสียหายมาขอตรวจเลือดซ้ำที่สภากาชาดไทย พร้อมเปิดผลยืนยันไม่ได้ติดเชื้อ HIV หลัง รพ.วินิจฉัยผิดพลาดแจ้งติดเชื้อมานาน 5 ปี
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 4 ก.ค. 2562 ที่คลินิกนิรนาม ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ถนนราชดำริ แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเกิดปัญหาความผิดพลาดในการตรวจเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากคนปกติกลายเป็นผู้ติดเชื้อ ได้เดินทางเข้าขอรับการตรวจเลือดจากสภากาชาด เพื่อยืนยันผลให้มั่นใจว่าผลการตรวจเชื้อจะไม่ผิดพลาด
นางมณีรัตน์ กล่าวว่า หลังทราบว่าติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในตอนนั้น ท้อแท้ อยากฆ่าตัวตาย แพทย์ได้จ่ายยาต้านไวรัสให้เพียงครั้งเดียวหลังตรวจพบว่ามีเชื้อ ซึ่งในครั้งนั้นยืนยันว่าไม่เคยกินยาต้านแม้แต่เพียงเม็ดเดียว ที่เลือกไม่กินยาตั้งแต่แรก เพราะถ้าหากตนเป็นโรคนี้จริงๆ ก็ขอให้ลูกหาย จึงเลือกให้ลูกกินยา แต่ตัวเองไม่กินยา ในตอนนั้นอยากจะตายเสียด้วยซ้ำและไม่คิดจะรักษา
นางมณีรัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มาตรวจเลือดยืนยันที่สภากาชาดไทย เพื่อยืนยันผลให้มั่นใจ เพราะสภากาชาดไทย ถือว่ามีมาตรฐานในการตรวจเลือด โดยได้เจาะเลือด 2 รอบ ตรวจ 3 วิธี ไม่พบว่ามีเชื้อเอชไอวี (HIV) ตนจึงรู้สบายใจและดีใจที่จะพ้นข้อครหา เหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่
ทั้งนี้ นางมณีรัตน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ทราบว่าติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ตนลำบากมาก สายตาทุกคนรังเกียจ ไม่อยากคบ ไม่อยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่ตนไม่เคยไปทำอะไรให้ใครทั้งนั้น จึงอยากฝากไปถึงประชาชนว่า ในฐานะที่เคยประสบพบเจอกับผู้ป่วยเอชไอวี (HIV) ว่า ผู้ป่วยเอชไอวี (HIV) จะต้องรับสภาพที่หนักแล้ว โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย สังคมรังเกียจ ก็อย่าไปรังเกียจพวกเขา ช่วยให้กำลังใจและให้โอกาสผู้ป่วยเหล่านี้ดีกว่า เพราะหากพูดดี กำลังใจดี ผู้ป่วยก็จะมีกำลังใจต่อสู้ได้อีกยาวไกล ดีกว่าไปซ้ำเติมเพราะพวกเขาเหนื่อยและท้อกับโรคนี้มาก
นอกจากนี้ นางมณีรัตน์ยืนยันเรื่องค่าเสียหายที่โรงพยาบาลอ้างว่าจ่ายให้จำนวน 50,000 บาท เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น นางมณีรัตน์ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับแต่อย่างใด
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้นางมณีรัตน์ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยกินยาต้านไวรัสเลย มีเพียงลูก 2 คนเท่านั้นที่กิน ทฤษฎีที่ว่ากินยาต้านไวรัสแล้วตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวี (HIV) ในเคสนี้จึงใช้ไม่ได้ หลังจากนี้จะส่งผลตรวจไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประกอบการพิจารณาดำเนินการกับทางโรงพยาบาลที่ตรวจผิด ว่าทำไมถึงตรวจพบว่านางมณีรัตน์ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เพราะอะไร เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ส่วนจะพิจารณาฟ้องทางแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้กับนางมณีรัตนและลูก 3 คนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้หากจะฟ้อง จะฟ้อง 30 ล้านบาท เพราะมีทั้งลูก 3 คน ที่ถูกสังคมเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้เด็กไม่มีเพื่อนเล่น ชีวิตแย่มาโดยตลอด
ทนายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอฝากเรื่องนี้ไปถึงกระทรวงสาธารณสุขว่าจริงหรือไม่ งบประมาณในการตรวจในแต่ละโรงพยาบาลไม่เท่ากัน ทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบโรคของผู้ป่วยที่มีบัตร 30 บาท มีประสิทธิภาพน้อยกว่า
ทั้งนี้มีโรงพยาบาลรัฐหลายโรงพยาบาล แจ้งถึงงบประมาณสำหรับเครื่องตรวจสอบโรคต่างๆ ที่มีให้แต่ละโรงพยาบาลไม่เท่ากัน ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง