"อัสสัมชัญ" ถกเครียดเหตุเครนถล่ม

 

               จากกรณีเครนก่อสร้างโรงแรมริเวอร์ การ์เด้นท์ ยกแผ่นเหล็กพื้นนั่งร้านขึ้นไปบนตัวอาคาร แต่เครนเกิดหักจนทำให้แผ่นเหล็กร่วงลงมาใส่หลังคาสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตบางรัก กทม. ที่อยู่ติดกัน ทำให้มีเด็กนักเรียนหญิงได้รับบาดเจ็บ 10 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถูกแผ่นเหล็กตกกระแทกศีรษะ จนถึงขั้นกะโหลกศีรษะร้าว อาการสาหัส ซึ่งได้ถูกนำตัวส่งเข้ารักษาอาการที่ รพ.เลิดสิน โดยแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

               ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา เวลา 09.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. 2562 ที่ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางรัก ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวรพล อุดมโชคปิติ ทีมผู้บริหารบริษัท แบงค์ค็อคฮอลพิทอลลิตี้ จำกัด เซอร์มารี หลุยส์ นิภา พรฤกษ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ คณะอาจารย์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก สำนักงานโยธากรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ปกครองอัสสัมชันคอนแวนต์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมแนวทางแก้ไขปัญหา การเยียวยาชดใช้ความเสียหาย หลังเครนหักแผ่นเหล็กหล่นใส่หลังคาอาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียนจนมีเด็กนักเรียนเจ็บ 10 คน

               บรรยากาศโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวรต์ วันนี้โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนเป็นวันแรก นักเรียนมาเรียนตามปกติ ในส่วนของอาคารลานอเนกประสงค์ มีเจ้าหน้าที่กำลังซ่อมแซมหลังคา มีนั่งร้านมาตั้ง และสแลนสีเขียวปิดกั้นเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป

               ดร.วัลลภ กล่าวว่า จากการพูดคุยได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหา 3 ข้อ คือ 1.ผู้รับเหมสจะต้องไม่มีการกระทำใดๆ กับตัวโครงการก่อสร้างเด็ดขาดโดยเฉพาะฝั่งที่ติดกับตัวโรงเรียน และต้องทำหนังสือขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงตัวอาคารกับสำนักงานเขตบางรัก จึงจะทำการปรับปรุงแก้ไขตัวโครงการต่อไปได้ ซึ่งจะต้องมีการทำตัวกั้นเสียงและกันฝุ่น เพื่อไม่ให้มีผลกระทบหลังจากที่นักเรียนย้ายกลับเข้ามาเรียนยังอาคารแห่งนี้ ซึ่งจากการตรวจดูใบอนุญาตของการก่อสร้าง พบว่า เมื่อปี 2560 มีการขอใบอนุญาตปรับปรุง ซึ่งจากการตรวจสอบของโยธาสำนักงานเขตบางรัก พบว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดัดแปลงจึงได้พักใบอนุญาต และทำหนังสือแจ้งให้หยุดดำเนินการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งต้องดำเนินการข้อใบอนุญาตใหม่ในการดัดแปลงอาคาร

               ดร.วัลลภ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อที่ 2. ในส่วนของการแก้ไข ซ่อมแซม อาคารสถานที่ภายในโรงเรียนที่พังเสียหายจากการก่อสร้าง ทางผู้รับเหมาได้ให้วิศวะกรของบริษัมเข้ามาดูแลและปรับปรุงรวมถึงแก้ไขให้มั่นคงแข็งแรงและรับออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักโยธาเข้ามาดูแลด้วย อีกทั้งทางผู้รับเหมาจะดูแลในทุกด้านที่ทางโรงเรียนต้องการทั้งค่าใช้จ่ายการดำเนินการ การทำกิจกรรมของโรงเรียนร่วมไปถึงการย้ายสถานที่เรียนไปยังโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ รวมไปถึงการดูแลค่ารักษาพยาบาล เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 10 คน และเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนหลังจากนี้ต่อไป ข้อ3.จะต้องมีการประชุมทุกภาคส่วนแบบนี้เพื่อตามความคืบหน้าทุกๆเดือน ครั้งต่อ วันที่ 11 ก.ค. เวลา 14.00 น. ณ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์

               ทางด้าน เซอร์มารี หลุยส์ นิภา เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางโรงเรียนได้ย้ายเด็กนักเรียนชั้น ม.3 ถึง ม.6 ไปเรียนที่อื่นชั่วคราว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง และยอมรับว่า ยังกังวลความปลอดภัยในการใช้อาคารนี้อยู่ จึงเรียกร้องให้ผู้รับเหมา เปิดเผยรายละเอียดของการยื่นเอกสารขออนุญาตก่อสร้าง ว่าเป็นไปตามแบบแปลนหรือไม่ และหากเป็นไปได้อยากให้ยุติการก่อสร้างตลอดไป

               ส่วนนายวรพล เปิดเผยว่า บริษัท แบงค์ค็อคฮอลพิทอลลิตี้ จำกัด ไม่ได้เป็นเจ้าของอาคาร แต่เป็นผู้รับมอบให้ดูแลบริหารและปรับปรุงอาคาร โดยจ้างผู้รับเหมา 5 บริษัท มาดำเนินหารปรับปรุงอาคารเดิมให้เป็นโรงแรม โดยทางเราได้ดำเนินการยื่นใบอนุญาตปรับปรุง แต่ไม่คาดคิดว่าการเสริมความแข็งแรงของอาคาร จะเป็นการดัดแปลง ซึ่งไม่มีใบอนุญาตดัดแปลงทางเขตได้มีการส่งเอกสารให้ระงับ ทางเราจึงระงับการดัดแปลงเหลือเพียงในส่วนโปรดักชั่นที่ยังดำเนินการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยอุบัติเหตุนั้นเกิดจากเครนและคนขับเครน ไม่ได้เกิดจากตัวอาคาร ทั้งนี้บริษัท แบงค์ค็อคฮอลพิทอลลิตี้ จำกัด เองยังไม่ได้รับการแจ้งข้อหา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าทางบริษัทมีความผิดประการใดยินดีเข้าให้การและให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ในส่วนการเยี่ยวยาเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ทยอยดำเนินการเข้าไปดูแลเป็นบางส่วนแล้ว หลังจากนั้นจะให้ความมั่นใจกับโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน ในการอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย เรื่องค่าเสียหายเป็นตัวเงินนั้น ยังอยู่ระหว่างการประเมิน

               ตัวแทนสมาคมผู้ปกครองอัสสัมชันคอนแวนต์ กล่าวว่า ทางผู้ปกครองเห็นพ้องกันว่า เพียงพอหรือไม่กับสิ่งที่สูญเสีย สิ่งที่ถูกกระทบ ไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะมีความปลอดภัย ซึ่งการก่อสร้างต้องคำนึงถึงชุมชนและพื่นที่ข้างเคียง ต้องเอื้อทั้ง 2 ฝ่าย ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อยากให้ยุติการก่อสร้างอาคารดังกล่าว

               พ.ต.อ.ดวงโชติ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายรีธ เอ๋ง (RETH ENG) อายุ 25 ปี ชาวกัมพูชา คนขับเครนได้เดินทางเข้ามามอบตัวกับพ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน)สน.บางรัก จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้บังคับเครนวันนั้นจริง หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยกับพวกคนงานชาวเดียวกันในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากเกิดความตกใจกลัว ไม่มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้ง ข้อหาร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ผู้ต้องหาได้ทำการขอยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด ในการประกันตัว 1 แสนบาท ทางพนักงานสอบสวนเห็นว่าเข้ามามอบตัวด้วยตัวเองและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงปล่อยตัวชั่วคราว โดยอีก 2-3 วันจะเรียกมาให้ปากคำในประเด็นความปลอดภัยในการบังคับเครนและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง