"ศรีวราห์"สั่งเร่งไล่ล่าคนซุกอาวุธสงคราม

11 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา  เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ได้นำปืนอาก้าชนิด AK-47 ซึ่งผลิตในประเทศรัสเซีย มาทำความสะอาด ขัดสนิม ตรวจสอบสภาพ และตรวจสอบเลขรหัสของปืน 

 

 

พร้อมด้วยอาวุธสงครามหลายชนิดที่ตรวจยึดได้จากพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 62 และพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 62 เพื่อรายงานผลการตรวจสอบให้ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ทราบ

 

ทั้งนี้ภายหลังจากเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากนายใส ศรีลาชัย อายุ 55 ปี ชาวบ้านใน อ.ขุขันธ์ ว่าขณะทอดแหหาปลาอยู่ในลำห้วยกะมด บ้านขนุนเหนือ ม.15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้พบกระสอบปุ๋ยภายในมีอาวุธสงครามอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

 

โดยพบอาวุธสงครามอยู่หลายชนิด ประกอบไปด้วย จรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) จำนวน 62 ลูก, ดินส่งต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) จำนวน 56 แท่ง, ลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 70 ลูก, กระสุนขนาด 7.62 จำนวน 2,800 นัด, ดินขยายการระเบิด จรวจต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) จำนวน 48 นัด, ซองบรรจุกระสุนปืนอาก้า จำนวน 30 ซอง, ขวดพลาสติกแบบฝาเกลียว จำนวน 10 ขวด, ถุงกระสอบ จำนวน 8 ถุง, และถุงมือ จำนวน 1 ข้าง

 

และเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนายชัย ผิวละออง อายุ 55 ปี ชาว อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ว่าขณะทำการหว่านข้าวในทุ่งนา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ได้มีคนมาบอกว่าพบอาวุธสงครามที่บริเวณบ้านห้วยตามอญ ซึ่งเป็นรอยต่อของ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ สภ.สะเดา จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุด EOD จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบอาวุธสงครามหลายชนิด ประกอบไปด้วย ปืนอาก้า ชนิด AK-47 จำนวน 16 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืน จำนวน 130 ซอง, ขวดพลาสติกสีเขียว จำนวน 18 ขวด และถุงกระสอบปุ๋ย จำนวน 4 ถุง

 

ที่ห้องประชุมสารสิน กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อัครเดช บุญเทียม รองแม่ทัพภาคที่ 2, นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, พอ.ณัฎฐ์  ศรีอินทร์  รอง ผบ.กกล.สุรนารี, พล.ต.ต.สุภากร  คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.3,  พ.ต.อ.อัยรัช ชินประยูร รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ

 

พ.ต.อ.อัทธชนม์  ช่วงงาม รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ, พ.ต.อ.สุจริต ปานเล็ก รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์, พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบก.ทล., พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.ชัยรัตน์  ศรีเอี่ยม ผบก.ศพฐ.3 และ พ.ต.อ.หญิง วรัชยา เทียมสุวรรณ นวท.(สบ4) พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดอาวุธสงครามในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์

 

พร้อมด้วยเรียกผู้บังคับการ และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรทั้ง 8 จังหวัด ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อประชุมติดตามเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง หลังจากพบอาวุธสงครามจำนวนมากในครั้งนี้ ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่า อาวุธสงครามเหล่านี้อาจจะเป็นของกลุ่มผู้ค้าอาวุธสงครามในตลาดมืด ที่จะอยู่ตามตะเข็บชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี โดยเฉพาะ จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ จะมีกลุ่มพ่อค้าอาวุธสงครามลักลอบ และซุกซ่อนอาวุธสงครามเข้ามาส่งขายให้พ่อค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

 

นายสมี ใสจิตร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขนุนเหนือ หมู่ที่ 15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ปกติแล้วในพื้นที่หมู่บ้านขนุนเหนือ จะมีความสงบเรียบร้อย ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำการเกษตร และเวลาว่างจะไปหาปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อประกอบอาหาร ในวันที่พบอาวุธสงครามนั้นบังเอิญน้ำในคลองลดระดับลง ชาวบ้านที่ไปหว่านแหหาปลาจึงพบอาวุธสงคราม และรีบมาแจ้งให้ตนทราบเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ

 

ส่วนกระแสข่าวที่มีว่าน่าจะเป็นอาวุธของกลุ่มเสื้อแดงนั้น ชาวบ้านเชื่อมั่นว่าไม่น่าจะใช่ เพราะในยุครัฐบาล คสช. ได้มีการควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ จนสามารถสลายสีเสื้อหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองหัวรุนแรงอยู่ในพื้นที่แล้ว และชาวบ้านก็ไม่เคยเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่จนผิดสังเกต ดังนั้นจึงมั่นใจว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองใดๆ แน่นอน.

 

เรื่อง / ภาพ ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ