มอบตัวแล้ว โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กโขกค่าโดยสารแหม่มสาว

 

               จากเหตุการณ์โชเฟอร์รถสามล้อ มีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าโดยสารกับนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ 3 คน ในราคาคนละ 500 บาท ระยะทางโดยสารเพียงแค่ 5 กิโลเมตร ล่าสุดวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 นายบุญเลิศ จัดสนาม โชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊ก ที่เรียกเก็บค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 3 คน แพงเกินกว่าที่ตกลงกันไว้แต่แรก ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับกรมการขนส่งทางบก และตำรวจท่องเที่ยว หลังตำรวจพยายามติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะทำให้ประเทศไทยเสียภาพลักษณ์กระทบการกับท่องเที่ยวไทย

 

 

 

               โดยนายบุญเลิศ ยอมรับว่าได้ทำเรื่องดังกล่าวจริง พร้อมยกมือไหว้ขอโทษประชาชนและสังคม ขอโทษในการกระทำของตนเอง โดยไม่มีเจตนา

 

 

 

 

               ด้าน พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ตำรวจท่องเที่ยวและกรมการขนส่งฯได้ร่วมกันติดตามตัวนายบุญเลิศ โชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊ก กระทั่งทราบว่าหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ภาคอีสาน ก่อนที่จะติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยพฤติการณ์ของนายบุญเลิศ จากการสอบปากคำได้ยอมรับว่าได้รับนักท่องเที่ยวจากแยกนางเลิ้งไปส่งที่โรงแรมเซนจูรี่ปาร์ค คิดราคา 500 บาท แต่เมื่อถึงที่หมายกลับบอกนักท่องเที่ยวว่าค่าโดยสารทั้งหมด 1,500 บาท ซึ่งเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเรียกเก็บค่าโดยสารเกินความเป็นจริง

               พล.ต.ท.ธีรพล ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีชาวต่างด้าวมาประกอบอาชีพเป็นโชเฟอร์ขับรถรับจ้างสาธารณะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญต่างๆจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนั้น ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวยังไม่ทราบถึงรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ โดยหลังจากนี้จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากคนต่างด้าวไม่สามารถประกอบอาชีพเป็นโชเฟอร์รถรับจ้างสาธารณะในประเทศไทยได้

 

 

 

 

               ขณะที่ นายสมชัย ราชแก้ว หัวหน้าฝ่ายงานตรวจการขนส่งทางบก ระบุ เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับนายบุญเลิศ 3 ข้อหา ใช้รถที่ทะเบียนระงับปรับไม่เกิน 2,000 บาท ,ใบอนุญาตขับขี่สิ้นสุด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ เรียกเก็บค่าโดยสารเกิดอัตราที่ตกลงกันไว้ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และให้เข้าอบรมในโครงการขับขี่ปลอดภัย เป็นเวลา 3 ชั่วโมง

               ด้านนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ 3 คนที่ถูกเรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง ได้ประสานมากับตำรวจว่าไม่ติดใจเอาความเพราะเป็นเงินเพียง 500 บาท และเห็นใจโชเฟอร์คนดังกล่าว