ข่าว

ศาลเยาวชนฯ ตั้ง "ป้า" ผู้ปกครองลูกสาวรองตี๋

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลตั้ง "พี่เมีย รอง ผกก.ป." เป็นผู้ปกครองหลานสาว ขณะที่คดีอาญาเสี่ยเบนซ์ เมาขับ ลุ้นอัยการอาญาธนฯ สั่งเดือน มิ.ย.

 

          วันที่ 28 พ.ค.62 – ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถ.กำแพงเพชร เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่ น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวภรรยาของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล หรือรองตี๋ รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. ซึ่งทั้ง รองตี๋ และภรรยา เสียชีวิต จากเหตุ นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี นักธุรกิจ เมาแล้วขับรถเบนซ์สปอร์ต ชนประสานงารถยนต์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.62 ขอตั้งผู้ปกครองดูแลบุตรสาว 2 คนของรองตี๋ กรณีที่ผู้เยาว์นั้นบิดา-มารดา ได้เสียชีวิตลง

 

          โดยคำร้องนั้น ระบุว่า บุตรสาวคนเล็กรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนบุตรสาวคนโตกำลังศึกษาในโครงการนักเรียนไทยกับสหรัฐอเมริกาและต้องกลับมาศึกษาต่อในโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการยื่นคำร้องนี้ผู้เยาว์ทั้งสองและญาติของ 2 ฝ่ายก็ยินดีและเต็มใจให้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ทั้งสองแทนบิดา-มารดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว เนื่องจากญาติฝ่ายบิดาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ญาติฝ่ายมารดาอยู่ จ.นครราชสีมา จึงไม่สะดวกที่จะช่วยเหลือปกครองดูแลผู้เยาว์ทั้งสอง โดยผู้ร้องมีอาชีพการงานเป็นหลักแหล่งอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองของผู้เยาว์ทั้งสองต่อไป โดยขอให้ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้พนักงานอัยการจังหวัดตลิ่งชัน ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ที่ก่อเหตุที่ทำให้บิดา-มารดาผู้เยาว์ถึงแก่กรรม หากผู้เยาว์ได้มีโอกาสเข้าไปในคดีอาญาทันเวลาก่อนที่ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวจะพิพากษา ผู้เยาว์จะได้ไม่เสียโอกาสมีผู้แทนในการเจรจาค่าเสียหายทางแพ่งกับผู้ก่อเหตุ

 

          ซึ่งวันนี้ น.ส.ขนิษฐา พี่สาวภรรยาของรองตี๋ ผู้ร้อง เดินทางไปศาลพร้อมกับ กลุ่มเพื่อนของรองตี๋ ที่เป็นทนายความชื่อกลุ่ม "ปู่เนติ" โดยบุตรสาวคนโตของรองตี๋ อายุ 16 ปี และบุตรสาวคนเล็กอายุ 12 ปีซึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็เดินทางมาร่วมการไต่สวนขอตั้งผู้ปกครองของผู้เยาว์ด้วย

 

          เมื่อถึงเวลานัด น.ส.ขนิษฐา พี่สาวภรรยาของรองตี๋ ในฐานะผู้ร้อง พร้อมด้วยบุตรสาวของรองตี๋ ทั้งสองคน ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องแล้ว เห็นว่า บิดา-มารดาของผู้เยาว์ทั้งสองถึงแก่ความตายแล้ว ผู้ร้องเป็นป้า เป็นผู้ดูแลผู้เยาว์มาตลอดจึงถือว่าเป็นญาติสนิท และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามที่จะให้เป็นผู้ปกครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1587 ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ตั้ง น.ส.ขนิษฐา พี่สาวภรรยาของรองตี๋ เป็นผู้ปกครอง ผู้เยาว์ทั้งสอง และให้ตั้ง ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ เป็นผู้กำกับการใช้อำนาจปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ทั้งสองด้วยเพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้เยาว์

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ศาลเยาวชนฯ มีคำสั่งแต่งตั้ง ป้าเป็นผู้ปกครองแล้ว เด็กหญิงทั้งสองบุตรของรองตี๋ ก็มีท่าทีสีหน้าที่สดใส โดยน้องสาวได้ขี่หลังพี่สาวเป็นกำลังใจให้กันด้วย.

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าด้านคดีอาญาในการพิจารณาเพื่อมีความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง "นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์" นักธุรกิจ ซึ่งเมาแล้วขับรถเบนซ์สปอร์ตชนจนมีผู้เสียชีวิต ที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่นฯ , ขับรถโดยประมาทอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบัตรเจ็บสาหัส , ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย , ขับรถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายบาดเจ็บสาหัสนั้น

ขณะนี้คณะทำงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5  รวม 3 คน กำลังพิจารณาใกล้ที่จะมีความเห็นทางคดีอย่างใดอย่างหนึ่งได้ภายในสัปดาห์นี้สิ้นเดือน พ.ค.นี้ และเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ก็จะต้องเสนอความเห็นนั้นไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ทั้งอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 และอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ให้พิจารณากลั่นกรองชี้ขาดด้วย แต่ระหว่างนี้จะครบกำหนดฝากขัง "นายสมชาย" ครั้งที่ 4 ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ดังนั้นอัยการเตรียมจะยื่นขอร้องขอฝากขังครั้งที่ 5 ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันไปก่อนอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-11 มิ.ย.นี้ ระหว่างที่ต้องรอการสรุปความเห็นชี้ขาดตามลำดับชั้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอัยการจะมีความเห็นชี้ขาดทางคดีได้ในเดือน มิ.ย.นี้ โดยคดีนี้สามารถยื่นฝากขังผู้ต้องหาได้สูงสุด 7 ผลัดๆ ละ 12 วัน รวมทั้งสิ้น 84 วัน โดยระหว่างการฝากขังที่ผ่านมา "นายสมชาย" ผู้ต้องหา ก็ได้การประกันตัวไปด้วยเงินสด 200,000 บาท ตั้งแต่การฝากขังครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ทนายความของนายสมชาย ระบุว่า ทางผู้ต้องหา พร้อมจะเยียวยาทางแพ่งครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายราว 45 ล้านบาทด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ