คุมตัวหนุ่มพม่าแก๊งปล้นร้านเพชรไปทำแผนฯ สารภาพได้ค่าจ้างเป็นแหวนทอง สงสัยเพื่อนร่วมแก๊งอมทรัพย์สิน ตร.เตรียมเรียกตัวผู้นำของกลางไปจำนำสอบเพิ่ม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2562 พนักงานสอบสวน สน. เพชรเกษม นำตัวนายต้นรัก หรือต้น แรงงานชาวเมียนมา ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ที่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีปล้นร้านขายเพชรและทองปากซอยเพชรเกษม 63 ที่ร่วมกับนายนพอนันต์ และนายวุฒิชัย ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้
โดยเจ้าหน้าที่เริ่มจากนำตัวเข้ามาภายในร้าน ชี้จุดที่ก่อเหตุ โดยนายต้นมีหน้าที่เป็นคนคุมเชิงเจ้าของร้าน และกวาดทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้ที่ 2 และ 3 โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ได้ไป เป็นสร้อยแหวนทองคำ และเครื่องเพชรจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากร้านและทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้นายนพอนันต์หรือหัวหน้าแก๊ง ไปรวมตัวกันเพื่อนับทรัพย์สินที่บ้านพักในย่านกระทุ่มแบน แต่นายวุฒิชัยมาถึงที่บ้านช้าที่สุด ซึ่งภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ 1 ซึ่งเป็นร้านจำนำเพชรและทอง นายต้นก็ยกมือไหว้และขอโทษเจ้าของร้านที่เข้ามาก่อเหตุ
นายต้นให้ข้อมูลว่า ตนเองได้ทรัพย์สินเพื่อเป็นค่าจ้างเป็นแหวนทองคำ 5 วง จึงนำไปฝากให้เพื่อนชาวไทยช่วยนำไปจำนำได้เงินมา 10,000 บาท ก่อนจะนำเงินจำนวนดังกล่าวหลบหนีไปที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยหวังว่าจะหลบซ่อนตัวตามป่าเขาบริเวณชายแดนจนกว่าคดีจะเงียบ แต่ก็ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน ทั้งนี้ตัวเองก็สงสัยว่าหนึ่งในผู้ร่วมแก๊งน่าจะเบี้ยวอมทรัพย์สินไว้เนื่องจากนายวุฒิชัยเดินทางกลับมาถึงที่บ้านช้าที่สุดและเมื่อนับทรัพย์สินก็เหลือเพียง 50 กว่ารายการเท่านั้น
จากประวัติพบว่านายต้นเข้ามาทำงานในเมืองไทยหลายปีแล้ว จนสามารถเรียนรู้และพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน โดยก่อนเกิดเหตุทำอาชีพรับจ้างช่วยงานที่เขียงหมู นายต้นและผู้ต้องหาอีก 2 คนไปรู้จักกันที่วงเหล้าในย่านพุทธมณฑลสาย 4 เพียงไม่กี่วันก็ได้รับการชักชวนเข้ามาร่วมก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวถือว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วยกแก๊ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกตัวคนไทยที่นำแหวนของนายต้นไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วนการติดตามทรัพย์สิน ขณะนี้จากการตรวจสอบยอดทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปมีจำนวน 141 รายการ และยึดคืนมาได้แล้ว 108 รายการ สำหรับทรัพย์สินที่หายไปอยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาของกลาง ส่วนแหวน 5 วงที่ถูกจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ตามพ.ร.บ.โรงรับจำนำแล้วเจ้าของทรัพย์สินจะต้องเป็นผู้ไปไถ่ถอนคืนมาเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง