ข่าว

แม่วอนทุกฝ่ายช่วยลูกเข้าเรือนจำ 4 วันเป็นศพซ้ำทั่วตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศรีสะเกษ-ผบ.เรือนจำศรีสะเกษเจรจาทำความเข้าใจต่อหน้าศพ ยืนยันไม่มีนักโทษซ้อมผู้ถูกควบคุมตัวคดีเสียค่าปรับ 6,000 บาท เมาแล้วขับจนเสียชีวิต แม่วอนทุกฝ่ายช่วย

 

                  21 เมษายน 2562 ที่บ้านเลขที่ 23 บ้านนิคมหนองฉลอง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองฉลอง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ คุณแม่ สุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ผู้สูญเสียลูกชายที่เป็นเสาหลักของบ้าน อุตสาห์เรียนจนจบปริญญาตรี หวังจะได้พึ่งพาอาศัยเลี้ยงดูยามแก่ชรา วันนี้ต้องการมากลายเป็นศพนอนแน่นิ่งอยู่ในโลง ภายใต้ความสงสัยว่าเพราะอะไรลูกตนเองถึงตาย

 

        

 


 

       

 

 

                  โดยเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 ได้ถูกด่านตรวจ จุดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตำบลหนองฉลอง อำเภอขุขันธ์ ที่ตั้งจุดตรวจห่างจากบ้านเพียง 100 เมตร ถนนสายขุขันธ์ – โคกตาล ซึ่งลูกชายตน นายพรหมปัญญา เกตุหอม อายุ 40 ปี ก็ได้ไปช่วยกางเต้นท์ ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง แต่หลังจากนั้นก็จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่จุดตรวจ แล้วไปช่วยงานไหว้ปู่ย่าที่ภายในหมู่บ้าน และเมาออกมา จะมาเอารถจักรยานยนต์กลับบ้าน แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ที่บริการประจำจุดตรวจจับ ส่งสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ ในข้อหาเมาแล้วขับ ซึ่งจริง ๆ แล้วยังไม่ได้ขับ

 

                  จากนั้นก็ส่งตัวไปฟ้องศาลจังหวัดศรีสะเกษ ตามกฎหมาย และศาลสั่งให้เสียค่าปรับ 6,000 บาท แต่เจ้าตัวไม่มีเงิน ไม่อยากให้แม่เป็นหนี้นอกระบบเพื่อนำมาเสียค่าปรับ เลยตัดสินใจ ขอติดคุกแทนเสียค่าปรับ โดยในวันที่ 18 เมษายน 2562 แม่และญาติ ๆ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ให้ไปรับศพลูกที่ รพ.ศรีสะเกษ และเมื่อรับศพกลับมาด้วยความงุนงง ก็ได้เปิดศพดู ก็พบว่ามีร่อยรอยการทำร้าย พบรอยฟกช้ำดำเขียวตามลำตัว ปากแตก มีเลือดกบปาก ขณะที่ใบรับรองแพทย์การเสียชีวิตจากคล้ายถูกกระแทกด้วยของแข็งต่าง ๆ จึงคาใจวอนทุกฝ่ายช่วยลูกตน

 

                  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เป็นข่าวไปเมื่อวานนี้ ( 20 เมษายน 2662 ) วันนี้ นายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบญาติๆ และมารดา เพื่อสอบถาม ทำความเข้าใจ พร้อมรับผิดชอบ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว          

 

                  นางสุรินทร์ เกษหอม แม่ผู้สูญเสีย เล่าว่า ตนเสียใจมากที่เห็นศพลูกอยู่ในสภาพนี้ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะที่ผ่านมาก็อยู่กับลูกเพียง 2 คน ลูกตนเป็นคนดี มีความกตัญญู ไม่ได้เป็นคนที่ดื่มเหล้าเมามายใด ๆ  แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ไปช่วยงานบ้านญาติ ๆ ก็ดื่มเป็นธรรมดา และที่สำคัญ ยังไม่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพียงจอดรถเอาไว้ที่จุดตรวจ จุดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ และไปช่วยงาน กลับมาเอารถ ก็มาถูกจับ ส่งฟ้องศาล ตนยอมรับว่าลูกถือขวดเหล้ามาด้วย ก็ด้วยความหวังดีจะนำมาฝากเพื่อน ๆ คนที่เฝ้าจุด เพราะก่อนหน้านี้ลูกตนก็ไปช่วยกางเต้นท์ ดึงเชือก เดินสายไฟส่องสว่าง แต่พอถูกจับส่งฟ้องศาล ลูกตนไม่มีเงินค่าปรับ 6 พันบาท จึงติดคุกแทนค่าปรับ 4 วันจนเสียชีวิตดังกล่าว

                 

                  ศพลูกชายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวรอบตัว ปากแตกมีเลือกกลบปาก ผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆ ถ่ายรูปเอาไว้ ตนอยากจะวอนทุกฝ่าย ช่วยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการตายของลูกตน นับตั้งการจับกุม ข้อหาลูกตนเมาแล้วขับ เพราะเพื่อนบ้านเห็นหมดว่าลูกตนยังไม่ได้ขับรถแต่อย่างใด ท่ามกลางความสงสัยว่า ทำไมลูกตน ครอบครัวตนจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ 6 พันบาท ลูกตนต้องตายเลยหรือตนจะยังไม่เผาศพลูกชายตน จนกว่าทุกอย่างจะจบ หากที่จังหวัดศรีสะเกษไม่ดูแลตนและญาติ ๆ ก็จะเอาศพไปส่งนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ถามว่าทำไมลูกตนตายและใครจะรับผิดชอบ  

 

                  นางเทวัญ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 เล่าว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้าน ว่าการตายของลูกชายของนางสุรินทร์ เกษหอม  น่าสงสัย เพราะการที่ไม่มีเงิน 6 พันบาท ไปเสียค่าปรับตามที่ศาลสั่งจึงตัดสินใจ ติดคุกแทนค่าปรับ แต่ติดไปได้ 4 วัน เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า ให้ไปรับศพลูกที่ รพ.ศรีสะเกษ เสียชีวิต ตนในฐานะญาติคนหนึ่งก็เดินทางไปด้วย แต่เพื่อไปพบเห็นสภาพศพ ที่รอยฟกช้ำเขียว ปากมีเลือดไหล แต่จมูกไม่มีรอยอะไรเลย ก็น่าสงสัย เพราะหากจะเชื่อว่าหกล้มในขณะถูกควบคุมตัวแทนค่าปรับ ทำไมตามตัวฟกช้ำดำเขียว ทำไมปากมีเลือดออก คล้ายถูกตี และจมูกไม่มีเลือด ไม่ช้ำอะไรเลย เพราะหากล้มในสถานคุมขังแทำไมใบหน้าไม่ช้ำ น่าสงสัยมาก จึงได้ถ่ายรูปเอาไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ดู และนับตั้งแต่การถูกจับแล้ว ทำไมคนดี มาช่วยงาน แค่เมาจะมาเอารถกลับบ้าน ห่างจุดบริการเพียง 100 เมตร ถูกจับ แม้จะยังไม่ได้ขับขี่รถเลย อันนี้ทุกฝ่ายต้องตอบ ต้องรับผิดชอบให้กับคุณแม่ ผู้สูญเสียลูกไปอย่างน่าสงสัยมาก ๆ

 

                    นายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ตอนเย็นตนได้รับรายงานจาก เจ้าหน้าที่พยาบาลว่า ได้มีผู้ต้องกักขัง มีอาการเมาเหล้า พยาบาลก็เลยเข้าไปดูแล ให้ยาตามปกติ จากนั้นผู้ต้องขังก็กลับเข้าไปยังสถานที่กักขัง ระยะเวลาผ่านไปจนช่วงเวลา 05.00 น. ตนได้รับรายงานว่า ผู้ต้องขังมีอาการหายใจผิดปกติ ตนจึงได้ประสานรถ รพ.ศรีสะเกษ ให้เดินทางมารับตัวไปรักษาดูแลที่ รพ.ศรีสะเกษ จนเวลา 11.00 เศษของวันที่ 18 เมษายน 2562 ได้รับแจ้งจาก รพ.ศรีสะเกษ ว่าผู้ต้องขังรายดังกล่าว เสียชีวิตแล้ว ตนจึงได้แจ้งไปที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางไปร่วมตรวจชันสูจน์ศพ และมาตรวจสอบที่สถานกักขัง เก็บรายละเอียด ทุกอย่าง ซึ่งตอนนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ก็ได้รับคำยืนยันจากผู้ดูแลสถานกักขัง ว่าไม่ได้มีผู้กักขัง ผู้ถูกคุมขังรายใดเข้าไปทำร้ายในวันดังกล่าว ขณะเดียวกัน ตนในฐานะผู้ดูแลเรือนจำ ก็พร้อมที่จะดูแล เยียวยาทุกอย่าง ตามสมควรต่อไป  

 

                   ขณะเดียวกัน ที่มีการได้นัดหมายที่จะพูดคุย เจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 22 เมษายน 2562  ระหว่าง คุณแม่ สุรินทร์ เกษหอม แม่ผู้สูญเสีย, นางเทวัญ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้าน และบรรดาญาติๆ กับ นายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยผู้ควบคุมสถานกักกันผู้ต้องขังเสียค่าปรับ ด้วย

 

 

                   เรื่องโดย : พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์  ภาพโดย : พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ