ข่าว

'พีเน็ต' จี้ กกต. ทำหน้าที่ อิสระ-เที่ยงธรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'พีเน็ต' แถลง ตั้งข้อสังเกต 9 ข้อ จี้ กกต. ทำหน้าที่ด้วยความ อิสระ-เที่ยงธรรม พบใช้นโยบายของรัฐ มาใช้หาเสียงให้กับพรรคการเมือง

       มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2562 ในจังหวัดต่าง ๆ โดยที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้ติดตามข่าวการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการประกาศรายชื่อบุคคล ที่พรรคการเมืองเสนอชื่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกทั้งช่วงระยะเวลานี้ เป็นช่วงของการหาเสียงและการเปิดให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า จึงขอตั้งข้อสังเกตการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดังนี้

     1. การรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในหลายพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีผู้สมัครและพรรคการเมืองจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชน อย่างไรก็ตาม ระเบียบ ขั้นตอนต่าง ๆ ในการสมัครค่อนข้างมีรายละเอียดมาก จนอาจเป็นสาเหตุให้ผู้สมัครบางคนหมดสิทธิ์ การเป็นผู้สมัคร อันเป็นผลจากการที่ กกต. ออกระเบียบที่มีรายละเอียดหยุมหยิมและมิได้ใส่ใจทำความเข้าใจให้กับพรรคการเมืองและผู้สมัครอย่างชัดเจน

    2. การตรวจคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครที่ล่าช้า มีส่วนทำให้การหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคการเมืองบางส่วนถูกทำให้เลื่อนเวลาออกไป ไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ มีผลทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรับรู้ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครและนโยบายของพรรคการเมืองเท่าที่ควร

     3. การรับเรื่องร้องเรียนของ กกต. ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องที่มีความสำคัญละเอียดอ่อน ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง มีข้อห่วงใยว่า กกต. ได้ดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยเรื่องการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 หรือไม่ อย่างไร

     4. การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของ กกต. ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งขณะนี้ใกล้จะหมดระยะเวลาในการลงทะเบียน แต่ปรากฏว่าประชาชนโดยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับทราบข่าวสารข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า และอาจจะมีผลทำให้ไม่ได้ไปลงคะแนนในวันเลือกตั้ง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ในหลายพื้นที่ ก็ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าและได้สร้างความ สับสนให้กับประชาชนในการไปติดต่อขอลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า

       5. การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจรูปแบบการเลือกตั้งระบบใหม่ของ กกต. ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจจะ มีผลต่อการทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนตามเจตจำนงของตนเอง เพราะไม่เข้าใจถึงระบบเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้งที่มีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี เลือกผู้แทน เลือกพรรคการเมือง ด้วยการลงคะแนนคะแนนเดียว รวมตลอดไปถึงระบบการคิดคะแนนเลือกตั้งที่มีผลต่อการคิดคะแนนให้ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ การละเลยของ กกต. ต่อการทำหน้าที่ในการทำความเข้าใจให้กับประชาชนในเรื่องเหล่านี้ จะมีผลกระทบต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้งตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

       6. กกต. ยังไม่ได้ทำหน้าที่ในการสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง การเลือกตั้ง และแม้แต่การตรวจสอบการเลือกตั้งแต่อย่างใด ส่อเจตนาที่จะทำให้การปฏิรูปการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง มาตรา 22 (5)

      7. ในหลายพื้นที่พีเน็ตได้รับรายงานในเรื่องเกี่ยวกับการใช้นโยบายของรัฐ มาใช้หาเสียงให้กับพรรคการเมือง ซึ่งน่าจะเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) เพราะมีบางพรรคการเมืองอ้างว่า นโยบายของรัฐบางเรื่องเป็นนโยบายของพรรคการเมือง ทั้งๆที่พรรคการเมืองนั้นเพิ่งจัดตั้งขึ้นมาไม่นาน

     8. ในส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งมหาดไทย ผู้นำเหล่าทัพ สตช. แม้ได้ประกาศว่าจะวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง ในทางปฏิบัติย่อมต้องให้ความสำคัญกับการวางบทบาทหน้าที่ที่จะต้องร่วมมือกับ กกต. บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด และพึงไม่ปฏิบัติงานที่ยังประโยชน์แก่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และเมื่อพบเห็นการกระทำที่ส่อว่าจะเป็นการทุจริตผิดกฎหมายเลือกตั้ง จะต้องรีบดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ มิใช่ปล่อยให้ กกต. หรือพรรคการเมืองจัดการกันเอง

      9. กกต.ไม่ได้มุ่งทำงานบูรณาการ เพื่อผสานพลังกับภาคส่วนต่าง ๆ ให้มีส่วนร่วมช่วยทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม แต่วางนโยบายการทำงานแบบแยกส่วน ซึ่งย่อมอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน อาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นเพียงการเลือกตั้งตามรูปแบบ แต่ขาดจิตวิญญาณของประชาธิปไตยอันเป็นเจตนารมณ์ที่สำคัญของรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปการเมือง

     ข้อสังเกต 9 ข้อข้างต้น เป็นผลมาจากการทำงานของพีเน็ตที่ได้ตรวจสอบสังเกตการณ์การทำงานของ กกต. และการหาเสียงของนักการเมือง ผู้สมัคร พรรคการเมือง ทั้งนี้ ตั้งแต่ก่อนมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนช่วยทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงขอเร่งรัดให้ กกต. ทบทวนการทำหน้าที่ให้ดำเนินไปด้วยเจตจำนงประชาธิปไตยที่ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม และด้วยความเป็นอิสระมุ่งมั่นที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นหนทางของการปฏิรูปการเมือง และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย รวมทั้งประชาคมโลก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ