ข่าว

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศูนย์สุขภาพสตรี รพ.จุฬาภรณ์ - ร.ร.นักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ - สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ร่วมจัดโครงการ "Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV"

 

          วันที่ 24 ม.ค. 2562 - เดือนมกราคมเป็นเดือนรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ และสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย บูรณาการความร่วมมือสร้างเสริมสุขภาพให้สตรีไทยได้ตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกที่คร่าชีวิตสตรีไทยเฉลี่ยถึงวันละ 14 คน ทั้งๆที่มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ป้องกันได้

 

          ภายใต้แคมเปญรณรงค์ “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV” ซึ่งภายในงานได้มีการจัดเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชพีวีและวิธีป้องกันสตรีไทยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.จตุพล ศรีสมบูรณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย และ นพ.ณัฐวุฒิ กันตถาวร อาจารย์คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และหัวหน้าศูนย์สุขภาพสตรี  โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยคุณแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง ที่ได้มาร่วมแบ่งปันเรื่องราว และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมรณรงค์ให้ประเทศไทยปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูกในโครงการดังกล่าว

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ได้จัดบุคลากรทางการแพทย์ให้บริการตรวจเช็กสุขภาพ และให้คำปรึกษาด้านโรคทางนรีเวชแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ ตรวจอัลตราซาวด์เชิงกรานสตรีในกลุ่มที่มีอาการผิดปกติ อาทิ ปวดท้องน้อย ปวดประจำเดือน เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือคลำได้ก้อน, ตรวจมวลกระดูกพร้อมให้คำปรึกษาวัยทองสำหรับสตรีอายุ 45 ปีขึ้นไป, ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเอชพีวี และรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีกับทีมแพทย์เฉพาะทาง ตลอดจนการสอนตรวจคลำเต้านมด้วยตนเอง ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีพลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รักษาการรองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาโครงการใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และทีมบุคลากรทางการแพทย์จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          พล.อ.ต. นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รักษาการรองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาโครงการใหม่ กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชำนาญการด้านโรคมะเร็งที่ได้สืบสานการดำเนินงานตามรอยพระปณิธานอันแน่วแน่ใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมุ่งหวังให้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นศูนย์ชำนาญการด้านการศึกษา การวิจัย และการรักษาโรคมะเร็งของประเทศไทย ด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ พร้อมเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย ยกระดับการรักษาให้ทัดเทียมนานาประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง รวมถึงผู้ป่วยยากไร้ให้ได้รับการดูแลบำบัดรักษาอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน 

 

          “ในโอกาสที่เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปากมดลูกสากล วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ และสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย จึงได้จัดโครงการบริการทางการแพทย์ด้านโรคทางนรีเวชพร้อมกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกภายใต้แนวคิด “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV” เพื่อรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานในกำกับของรัฐที่ให้การสนับสนุนการบูรณาการองค์ความรู้เพื่อให้สตรีไทยได้ตระหนักและป้องกันภัยจากโรคมะเร็งปากมดลูก” พล.อ.ต. นพ.สันติ กล่าว  

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          พล.อ.ต. นพ.สันติ กล่าวอีกว่า ในปี พ.ศ. 2562 นี้เป็นปีที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของการเปิดดำเนินงาน ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์จึงได้จัดกิจกรรมบริการตรวจเช็กสุขภาพและให้คำปรึกษาด้านโรคทางนรีเวช อาทิ ตรวจอัลตราซาวด์เชิงกรานสตรี ตรวจมวลกระดูกพร้อมปรึกษาอาการวัยทอง แก่ประชาชนตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมทั้ง 2 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อสานต่อพระปณิธานขององค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่ทรงมุ่งหวังให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาสที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากลอย่างเท่าเทียมกัน 

 

          ด้าน ศ.นพ.จตุพล ศรีสมบูรณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า จากสถิติทั่วโลกมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งในสตรีที่พบเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งรวมทั้งในประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาพบผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่มีมากถึง 8,600 รายต่อปี หรือในทุกๆวันจะมีผู้ป่วยรายใหม่ถึง 24 คน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม โดยปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตสตรีไทยเฉลี่ยถึงวันละ 14 คน ทั้งที่มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่ป้องกันได้ เพราะเรารู้สาเหตุแน่ชัดแล้วว่ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งมีวิธีการป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเอชพีวี ดีเอ็นเอ และวัคซีนป้องกัน 

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          ศ.นพ.จตุพล กล่าวว่า ช่วงเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา ดร.เท็ดรอส แอดานอม เกเบรเยซัส ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก ได้กล่าวถ้อยแถลงซึ่งถือเป็นเป้าหมายระดับนานาชาติที่ตอบสนองต่อข้อผูกพันด้านนโยบายสุขภาพโลกในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติว่า “A world free of cervical cancer” หรือ “มะเร็งปากมดลูกควรจะต้องหมดไปจากโลกใบนี้” โดยมีมาตรการขจัดโรคมะเร็งปากมดลูกที่สำคัญ ได้แก่ การรับวัคซีน การตรวจคัดกรอง การรักษา และการดูแลแบบประคับประคอง ซึ่งสิ่งที่ทุกประเทศต้องทำอันดับแรก คือ จะต้องแนะนำและขยายการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีให้ครอบคลุมกลุ่มเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ให้มากที่สุด 2.ทุกประเทศจะต้องแนะนำและปรับการตรวจคัดกรองเชื้อเอชพีวีให้เป็นการตรวจพื้นฐานสำหรับผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 49 ปี และให้การรักษาและติดตามผลอย่างเหมาะสม และ 3.ทุกประเทศจะต้องเพิ่มการเข้าถึงการวินิจฉัยการรักษามะเร็งปากมดลูก และให้การดูแลแบบประคับประคอง 

 

          ขณะที่ นพ.ณัฐวุฒิ กันตถาวร แพทย์เฉพาะทางมะเร็งวิทยานรีเวช อาจารย์คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และหัวหน้าศูนย์สุขภาพสตรี  โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับการตอบสนองต่อการสนับสนุนนโยบายสุขภาพโลกของทางองค์การอนามัยโลกจึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “Wake up สตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก รู้ไว้ป้องกัน HPV” ปัจจุบัน วิทยาการทางการแพทย์ได้เจริญก้าวหน้า โดยมีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) เพื่อจะบอกให้แพทย์ทราบว่าผู้ตรวจเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ซึ่งการตรวจคัดกรองด้วยวิธีแพปสเมียร์จะสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 10 ปี ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และบางครั้งกว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่มะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ดังนั้น จึงมีการแนะนำให้สตรีในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือในกลุ่มสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 14 สายพันธุ์ และสามารถระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อเอชพีวี สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อเอชพีวี มักไม่แสดงอาการ การตรวจหารอยโรคก่อนมะเร็งแต่เนิ่นๆจะช่วยให้แพทย์ควบคุมความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก และตัดสินใจเลือกวิธีรักษาโดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สตรีที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ก็ยังต้องเข้ารับบริการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัสเอชพีวี และโรคมะเร็งปากมดลูก       

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          นอกจากนี้ เรายังเน้นการสร้างเกราะป้องกันด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง และแนะนำเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศทั่วโลก จากงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนเอชพีวีล่าสุดพบว่า วัคซีนสามารถลดการติดเชื้อเอชพีวีซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงมากกว่าร้อยละ 90 ของเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุหลักในการก่อมะเร็งปากมดลูก และลดการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ถึงร้อยละ 85 ซึ่งจะเห็นว่าเชื้อไวรัสเอชพีวี เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่ติดต่อกันได้ง่ายมาก ขณะที่วิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในการช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชพีวี ดังนั้น การเผยแพร่ความรู้ ทำความเข้าใจที่ถูกต้อง และการได้รับการป้องกันจากวัคซีนจึงเป็นเรื่องสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นวัยที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเหมาะสมที่สุดในการป้องกัน โดยถ้าได้รับวัคซีนตั้งแต่ในช่วงอายุนี้ ต่อไปเมื่อเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะได้มีภูมิคุ้มกันเตรียมพร้อมแล้ว

 

สตรีไทยไร้มะเร็งปากมดลูก

 

          อนึ่ง ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผสานทุกความเชี่ยวชาญ ปกป้องเคียงข้างสตรีไทยด้วยชุดโปรแกรมสุขภาพดีสตรีไทย ปลอดภัยไร้มะเร็งปากมดลูก Wake up สตรีไทย รู้จัก ป้องกัน ใส่ใจ คัดกรองสุขภาพสตรีในอัตราพิเศษตลอดปี 2562 อาทิ ตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA) 14 สายพันธุ์ ราคา 990 บาท, ตรวจภายในและอัลตราซาวด์อุ้งเชิงกราน ราคา 990 บาท, ตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ราคา 790 บาท, ตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกพร้อมตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี ราคา 1,590 บาท และวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีชนิด 4 สายพันธุ์ ราคาเข็มละ 1,990 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับบริการได้ที่ ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 9 อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สอบถามรายละเอียดหรือนัดหมายเข้ารับบริการได้ที่ โทร. 0 2576 6565 / 0 2576 6594

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ