สุดยอดภูมิปัญญาชุมชน คิด ออกแบบ สร้าง แท้งค์น้ำยักษ์ แหล่งน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ประปาชุมชน ทำง่ายๆ
วันที่ 28 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ta Sithiporn ได้มีเผยแพร่ภาพ กลุ่มชาวบ้านได้รวมกันสร้างแท้งค์น้ำขนาดใหญ่ในชุมชมเพื่อกักเก็บน้ำฝน ไว้ใช้ในสวนเกษตร โดยแกนนำเกษตรกรที่มี ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออ.ยักษ์ และคุณ โจน จันได เครือข่ายศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชุมชนต้นน้ำน่าน โดยมีข้อความว่า
การเก็บน้ำด้วยแท้งค์ขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านสามารถทำได้เอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบการก่อสร้างเชิงธุรกิจนี้ ปรากฏขึ้นครั้งแรกที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชุมชนต้นน้ำน่าน(ชตน.) ผู้ที่คิดค้นวิธีทำแท้งค์นี้คือ อาจารย์ยักษ์ เราจึงเรียกกันว่า "แท้งค์ยักษ์" ในครานั้นผู้ที่ควบคุมการสร้างเป็นครั้งแรกคือ พี่โจน จันได ภายหลังท่านอาจารย์จึงได้ให้คำนิยามว่า "แท้งค์ยักษ์มาตรฐานโจน"
ปัจจุบัน ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชุมชนต้นน้ำน่าน (ชตน.) ได้เป็นศูนย์รวมของแท้งค์ยักษ์เกิดขึ้นเกือบ ๑๐แท้งค์ และพี่กุล กุล ปัญญาวงศ์ยังได้ส่งเสริมให้ไปสร้างแท้งค์ยักษ์ขนาดมหึมาขึ้นที่บ้านใหม่ภูคา หรือดอยภูคา นอกจากนี้ยังมีพี่น้องเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติได้ทำใช้เองในหลายพื้นที่ด้วยกัน เช่น ที่ กาญจนบุรี พี่น้องชาวปิล๊อกคี่ ได้เป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้น โดยใช้งบประมาณที่ไม่มากนัก
ต้นปี พ.ศ.2562 อาจารย์ยักษ์ (ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร) ปรารภกับลูกศิษ์ที่มาบเอื้องว่า อยากจะทำแท้งค์เก็บน้ำยักษ์ไว้ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เพื่อให้เป็นตัวอย่างของการเก็บน้ำให้ได้ซัก 170,000 ลิตร สร้างแบบบ้านๆ ง่ายๆ งบประมาณน้อยๆ ใช้วัสดุที่หาเอาได้ในพื้นที่ คนในชุมชนซึ่งมีภูมิความรู้เกี่ยวกับไม้ไผ่อยู่แล้วสามารถทำตามได้ ช่วยกันลงแขก ไม่นานก็เป็นแท้งค์น้ำขนาดยักษ์ ซึ่งอาจจะเป็นของส่วนรวมที่ชุมชนสามารถใช้น้ำร่วมกันได้ มุ่งเก็บน้ำฝนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่ชุมชนจะได้มีน้ำกิน น้ำใช้ ได้ตลอดหน้าแล้ง
แท้งยักษ์นี้ถ้าจะให้ดี ก็ควรจะสร้างบนที่สูงกว่าระดับพื้นทั่วไป จะทำให้การจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคง่ายขึ้น คือสมมุติว่ากลางวันก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์สูบน้ำจากหนอง จากบ่อ ขึ้นไปเก็บในแท้งค์ การจ่ายน้ำลงก็จะประหยัดหรือแทบไม่มีการใช้พลังงานเลยก็ว่าได้
ข้าพเจ้านำมาเผยแพร่นี้ด้วยเหตุที่ได้รับมอบหมายให้ควบคุมการก่อสร้างขึ้นที่มาบเอื้องจึงพอรู้ พอเข้าใจในกระบวนทำแท้งค์ยักษ์ ทั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่มีความรู้แวดล้อมเชิงวิศวกรรมทางการก่อสร้างแต่อย่างใด เป็นเพียงเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแรงกล้าในสิ่งอาจารย์สอนคือ "คิดพึ่งตน"
มาบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราอยู่สมัยที่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะพึ่งพาตนเองให้ได้ ใช่หรือไม่ว่าการลุกขึ้นมาจัดการและรับผิดชอบกับทุกสิ่ง ทุกอย่างด้วยมือข้างของตนเองนั้นเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของทุกครอบ ทุกชุมชน
สิ่งสำคัญที่โปรดจงจำให้ขึ้นใจว่า
"ความขาดแคลนไม่เป็นปัญหา ถ้ามีปัญญาและความอดทน"
วิธีการทำพอสังเขป (รายละเอียดกรุณาอ่านคำบรรยายใต้ภาพ)
๑. ขั้นตอนการสร้างแท้งค์น้ำยักษ์ การขุดดินและการทำคานคอดิน
๑.๑ปรับพื้นที่ให้เรียบให้ได้ระดับในแนวราบ กำหนดขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางด้วยการหาจุดศูนย์กลางของแท้งค์
๑.๒ใช้ไม้หรือเหล็กตอกที่จุดศูนย์กลางข้าพเจ้าใช้เชือกคล้องที่หลักศูนย์กลาง วาดรัศมีตามขนาดที่ต้องการ
๑.๓ เมื่อได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแล้ว จึงขุดเอาดินด้านในของแท้งค์ออก เพื่อให้ฐานของแท้งค์อยู่ลึกลงไปประมาณ๑.๕ ม.
๑.๔ การขุดสามารถทำได้๒วิธี คือใช้คนขุด กับใช้รถขุด มีข้อแนะนำว่า ไม่ว่าจะขุดด้วยวิธีไหน ขอให้ขอบของแท้งค์ เป็นแนวดิ่งตั้งฉาก๙๐องศากับระนาบของพื้นดินเสมอ
๑.๕ ปรับระดับของพื้นให้ได้ระนาบ๑๘๐องศา ปรับระดับของผนังให้ตั้งฉากกับพื้น
๑.๖ ขุดดินเป็นร่อง(สี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง)โดยรอบวงกลม เพื่อทำเป็นคานคอดินรับน้ำหนักของแท้งค์(ขั้นตอนเดียวกันการทำคานคอดินในกระบวนการก่อสร้างทั่วไป) กำหนดจุดที่จะเป็นท่อระบายน้ำ ขุดวางท่อขนาด4นิ้วให้ลอดใต้คานคอดิน ให้ปลายที่อยู่ในแท้งค์ใส่ข้องอ๙๐องศา ต่อท่อโผล่ขึ้นมาประมาณ30ซม.(เผื่ตัดปลาย)
๑.๗ ใช้ไม้ไผ่แทนเหล็กเสริมคอนกรีต แล้วจึงเทปูนซีเมนต์โครงสร้าง
๑.๘ เมื่อเทปูนซีเมนต์แล้วให้ใช้ไม้ไผ่ขนาดความยาวประมาณ๒ม. เสียบลงในปูนซีเมนต์ในแนวดิ่ง ระยะห่างกัน๕๐ซม. เพื่อที่จะใช้เป็นโครงสำหรับสานไม้ไผ่ขึ้นไป
๒. เทคนิคการขึ้นโครง
๒.๑ เมื่อเทคานคอดินแล้ว ก็ทำการสานไม้ไผ่เป็นตัวเสริมคอนกรีตที่พื้น
๒.๒ เทพื้นโดยใช้ปูนซีเมนต์โครงสร้างหนาอย่างน้อย ๑๕ ซม.
๓. การทำผนัง และการก่อฉาบ
๓.๑ ผ่าไม้ไผ่เป็นเส้นๆ ความกว้างของแต่ละเส้นประมาณ๓ซม. ลบคมให้เรียบร้อย สานชิดกันจากไม้ไผ่ที่ทำการเสียบลงในคอนคอดินไว้แล้วขึ้น ในลักษณะ สานกระบุง
๓.๒ เมื่อสานไม้ไผ่สูงขึ้น ประมาณ ๑ ม.ให้ทำการฉาบปูนซีเมนต์ที่ไม้ไผ่ ให้หนาประมาณ ๓ซม. เพื่อที่เพื่อที่จะเป็นแบบสำหรับจะเทปูนซีเมนต์ลงไปเป็นผนังของแท้งค์ (ในช่วงนี้ให้วางท่อน้ำออกผ่านทะลุผนังไว้ด้วย)
๓.๓ เมื่อฉาบปูนซีเมนต์แห้งได้ที่แล้วให้เทกรอกปูนซีเมนต์โครงสร้างลงไปในช่อง ระหว่างดินกับผนังไม้ไผ่ กระทุ้งเสียบน้ำปูน อย่าให้มีช่องว่าง
๓.๔ ค่อยๆทำผนังแท้งค์ขึ้นไปที่ละช่วง ช่วงละ๑ ฟุต อย่าทำทีละช่วงเกินกว่า ๑ ฟุต เพราะจะทำให้ผนังไม้ไผ่่ที่ฉาบปูนแล้ว ปริแตกได้
๓.๕ เมื่อทำผนังโผล่พ้นระดับของพื้นดินเดิม บางวิธีก็ใช้ไม้อัดทำเป็นแบบที่ด้านนอกของแทงค์ สานไม้ไผ่และฉาบแต่ด้านในของผนัง แต่สำหรับวิธีของข้าพเจ้านั้น ใช้วิธีสานไม้ไผ่ที่ชั้นนอกแล้วฉาบปูน ซึ่งจะทำเป็นแบบสำหรักเทปูนไปในตัว และให้ควบคุมลักษณะของทรงกลมมิให้บิดเบี้ยวได้ดีกว่า การใช้ไม้อัดทำเป็นแบบที่ด้านนอก
๓.๖ ให้สานไม้ไผ่ ฉาบเพิ่มความหนา ตกแต่งผิวเรียบเนียน และกรอกปูนซีเมนต์ขึ้นไปเป็นช่วงๆ ช่วงละ ๑ ฟุต จนได้ความสูงที่ต้องการ มีข้อแนะนำว่า แต่ละช่วงของการสานไม้ไผ่และเทปูนซีเมนต์ให้ปรับตรวจดูระดับในแนวระนาบของการเทปูนฯด้วย ไปจนเมื่อถึงระดับที่ต้องการจะทำให้แท้งค์มีขอบบนที่ได้ระนาบดี
๓.๗ หากประสงค์จะให้แท้งค์ยักษ์มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ท่านให้เอาดินมาเสริมหนุนที่ด้านนอกของแท้งค์ ก็จะทำให้มั่นคงยิ่ง
๔ . การคำนวณปริมาณน้ำ
๔.๑ แท้งค์ยักษ์ที่ศูนย์กสิดรรมธรรมชาติมาบเอื้อง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๗ ม. สูง ๔.๕ ม. ในที่นี้เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณแก่บุคคลทั่วไปจะขอเอาสูตรคำนวญง่ายๆมาแนะนำ
สูตรการคำนวณหาปริมาตรทรงกระบอกทั่วไป
ดังนั้น ๓.๑๔×๑๒.๒๕×๔.๕๐
= ๑๗๓.๐๙๒๕ ลบม. หรือ = ๑๗๓,๐๙๒.๕ ลิตร
๔.๒ ส่วนการคำนวณหาปริมาตรของผนังและพื้น จะไม่ขอนำมาลงไว้ณ.ที่นี้ กรุณาค้นคว้าเพิ่มเติม
๕. การทำระบบน้ำเข้าและการระบายน้ำออก
๕.๑ การทำระบบน้ำเข้าไปเก็บในแท้งค์ยักษ์สามารถนำเข้าด้านบนได้เลย แต่ระบบน้ำออกเพื่อนำออกไปใช้นั้น ขอแนะนำให้ทำท่อน้ำออกอยู่เหนือพื้นของแท้งค์ประมาณ ๑ฟุต โดยการวางท่อPVCขนาดที่เห็นสมควรผ่านทะลุผนัง เพื่อจ่ายน้ำออกไป
๕.๒ สำหรับการระบายน้ำออกเพื่อการทำความสะอาด ให้ปากของท่อระบายอยู่ต่ำเสมอพื้นของแท้งค์ ก็จะสามารถขจัดเศษวัสดุ หรือตะกอนดินที่จะปรากฏอยู่ก้นแท้งค์ได้ง่ายขึ้น
๖. การตบแต่งพื้นที่โดยรอบเพื่อความสวยงามและใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ส่วนโครงหลังคาจอแนะนำให้ทำหลังคาเพื่อป้องกันไม่ให้ใบไม้ปลิวลงแท้งค์ได้ซึ่งจะทำให้น้ำเสีย
ข้อมูล Ta Sithiporn
ข่าวที่เกี่ยวข้อง