ข่าว

เกษตรเตรียมแผนเผชิญเหตุทุกสถานการณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประภัตร ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง จันทบุรี สั่งกรมชลฯเร่งสร้างอ่างเก็บน้ำแก่งหางแมว ให้แล้วเสร็จทันฤดูฝนนี้

 

 

2ึ7 มกราคม 2563 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จันทบุรีครั้งนี้พบว่ามีโครงการชลประทาน อยู่ระหว่างการก่อสร้างแหล่งกักเก็บน้ำหลายแห่งทั่วประเทศ  

 

 

ทั้งอ่างเก็บน้ำ ฝาย แก้มลิง ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯได้เร่งรัดให้ กรมชลประทาน ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อกักเก็บน้ำได้ทันในฤดูฝนนี้ ซึ่งในส่วนจ.จันทบุรี กำลังเร่งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแก่งหางแมว ซึ่งความจุ 80 ล้านลบ.ม. เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้น้ำของเกษตรกร

 

 


นายประภัตร กล่าวว่า ต้องเดินหน้าโครงการแหล่งเก็บน้ำ ต.บางชัน อ.คลองขลุง จ.จันทบุรี ในส่วนพื้นที่แปลงสุดท้ายที่ยังติดปัญหาเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ได้มีปัญหามายาวนาน ตนจะนำเรื่องไปหารือกับรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯและแจ้งว่าเป็นโครงการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเป็นแหล่งน้ำให้กับคนนับหมื่นคนได้ใช้

 

โดยกระทรวงเกษตรฯมีหลายมาตรการแก้ไขภัยแล้งพื้นที่เกษตร ทั้งช่วงเข้าสู่ภาวะภัยแล้ง และแผนเผชิญเหตุ ใช้น้ำบนฟ้า บนดิน ใต้ดิน และฟื้นฟูอาชีพ สภาพพื้นที่หลังประสบภัยให้เกษตรกรไปแจ้งขอความช่วยเหลือ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ ได้ทุกพื้นที่

 

ขณะนี้ จ.จันทบุรียังไม่มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง แต่มีพื้นที่เฝ้าระวังภัยแล้ง รวม 10 อำเภอ 69 ตำบล พื้นที่ 379.861 ไร่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน อาทิ อ.มะขาม อ.เมือง อ.แหลมสิงห์ และ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภค และใช้การเกษตร เนื่องจากฝนทิ้งช่วงและภัยแล้ง

 

จึงได้บูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ จ.จันทบุรี มีปริมาณฝนตกลงมามากกว่าหลายจังหวัด แต่ลักษณะพื้นที่ลาดเอียงจึงทำให้ฝนที่ตกลงมาไหลลงสู่ทะเล จึงต้องเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งให้เพียงพอ

 

ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้แล้วเสร็จเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และบริหารจัดการเก็บกักน้ำในช่วงหน้าแล้ง สำหรับในส่วนของการแก้ปัญหาการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองขลุง ที่ติดขัดเนื่องจากอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ จ.จันทบุรี ได้ดำเนินการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนของกรมอุทยานแห่งชาติจะประกาศเพิกถอนพื้นที่ป่า ซึ่งก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถเก็บกักน้ำได้ 4.21 ล้าน ลบ.ม. เพื่อสนับสนุนพัฒนาการเกษตรเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับการเกษตรและอุปโภค-บริโภค พื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 2,500 ไร่

 


สำหรับ จ.จันทบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 3,961,250 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม 2,284,609 ไร่ (57.67% ของพื้นที่ทั้งหมด) โดยแบ่งเป็น พื้นที่ไม้ผล 1,038,126 ไร่ พื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น 893,062 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชไร่ 118,797 ไร่ พื้นที่นา 32,186 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชผัก 7,225 ไร่ เป็นต้น ปริมาณน้ำภาพรวมจังหวัด 230 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 62 ถึง วันที่ 31 ธ.ค. 62 จำนวน 17,391.30 มม. พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน 339,292 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 1,779 กิโลกรัม ลำใย 279,776 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 1,342 กิโลกรัม มังคุด 125,834 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 967 กิโลกรัม 

 

ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมี 5 แห่ง คือ เขื่อนคีรีธาร เขื่อนพลวง อ่างเก็บน้ำคลองประเเกด อ่างเก็บน้ำคลองศาลทราย และอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ รวมความจุอ่าง 306.44 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำทั้งหมด 230.30 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การได้ 220 ล้าน ลบ. คิดเป็น 72 (ตัวเลข ณ วันที่ 24 ม.ค. 62)
 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ