ข่าว

ลุยต่อแจกหมอนยางพาราประชารัฐ 20 ล้านใบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ธรรมนัส ยังลุยต่อแจกหมอนยางพาราประชารัฐ20ล้านใบ ฟุ้งเป็นโครงการใหญ่เปิดพุทธศักราช 2563 มอบเป็นของขวัญประชาชน ทั้งเกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้เห็นแน่ราคายาง 65 บาท

 

26 ธันวาคม 2562 ธรรมนัส ยังลุยต่อแจกหมอนยางพาราประชารัฐ 20 ล้านใบ ฟุ้งเป็นโครงการใหญ่เปิดพุทธศักราช 2563 มอบเป็นของขวัญประชาชน ทั้งเกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้เห็นแน่ราคายาง 65 บาท เล็งให้กองสลากฯ ออกสลากพิเศษจำหน่าย นำเงินมาดำเนินโครงการ ไม่ใช้งบประมาณรัฐ  

 

 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กำลังเร่งดำเนินโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ 20 ล้านใบมอบให้ประชาชนและหน่วยงานภาครัฐนำไปใช้ ทั้งนี้เพื่อยกระดับราคายางพารา ด้วยการเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้ได้ผลจริงตามคำสั่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

ซึ่งที่ผ่านมามีเป้าหมายใช้ 200,000 ตันต่อไปเพื่อลดประมาณยางในระบบ แต่ทำได้เพียงร้อยละ 10 ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงจะนำเสนอครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการดังกล่าว โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ดำเนินการผลิตหมอนยางพารา

 

ทั้งนี้หมอนใบหนึ่งใช้น้ำยางพารา 3-4 กิโลกรัมซึ่งจะประสานการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กำหนดวิธีการรวบรวมวัตถุดิบจากสหกรณ์ชาวสวนยาง กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อีกทั้งในระยะยาวจะสามารถยกระดับราคายางพาราให้สูงขึ้นได้ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้ว่า จะทำให้ราคายางพาราที่ตกต่ำอยู่มายาวนาน ปรับสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 65 บาทให้ได้

 

เดิมนั้นจะเสนอครม. อนุมัติให้อตก. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ จากนั้นให้อตก. ประสานกับกองสลากแห่งประเทศไทยออกสลากพิเศษจำหน่ายแก่ประชาชนเพื่อนำเงินมาผลิตหมอน มุ่งหวังให้เป็นโครงการใหญ่เปิดพุทธศักราช 2563 มอบเป็นของขวัญแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราและประชาชน

 

จากนั้นนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยแก่ธ.ก.ส.จนครบจำนวน ดังนั้นจึงเป็นโครงการที่ไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐ​ต่อมาคณะทำงานของร.อ. ธรรมนัสพบว่า อตก.ไม่สามารถกู้เงินจากธ.ก.ส.ได้เนื่องจากผลประกอบการขาดทุนมา 5 ปี แต่ไม่ได้ล้มเลิกโครงการนี้แต่อย่างใด อยู่ระหว่างมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันหาแนวทางดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้สำเร็จ

 

ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯ รวมถึงเชิญอธิบดีกรมสรรพสามิต ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล​ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้จัดการธ.ก.ส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหารือการจัดทำรายละเอียดโครงการนี้ในเบื้องต้นแล้ว 

 

 

จากนั้นในวันที่ 8 มกราคม 2563 จะเชิญประชุมอีกครั้งเพื่อเร่งรัดดำเนินการ โดยการยางแห่งประเทศไทย (ก.ย.ท.) จะเชิญผู้ประกอบการผลิตเครื่องนอนจากยางพาราชั้นนำมาหารือเพื่อขอความร่วมมือในการผลิตหมอนประชารัฐ  

 

 

ร.อ. ธรรมนัส กล่าวต่อว่า มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางที่จะนำเครื่องนอนที่ผลิตจากยางพาราไปใช้ในภาคการท่องเที่ยวด้วย โดยขอความร่วมมือสมาคมโรงแรมและรีสอร์ท​นำเครื่องนอนยางพาราไปเปลี่ยนที่นอนเดิม เมื่อนักท่องเที่ยวไปพัก แล้วได้ทดลองนอนจะได้ทราบว่า เครื่องนอนจากยางพารามีคุณภาพ นอนสบาย และมีความคงทนซึ่งจะเป็นการขยายตลาดสินค้ายางพาราต่อไป โดยอยู่ระหว่างกำหนดมาตรการจูงใจแก่ผู้ประกอบการ​ที่ร่วมโครงการ

“จะเร่งเดินหน้าโครงการนี้หลังปีใหม่ทันที โดยนอกจากหมอนยางพาราแล้ว ได้สั่งการหาช่องทางการตลาดในการนำยางพารามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยต่อไปอาจจำหน่ายบนเว็บไซต์ของอตก. เพื่อให้ประชาชนสั่งซื้อได้ง่าย หากการใช้ยางในประเทศเพิ่มขึ้นจะทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด จากปัจจุบันราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 42-43 บาท​ มุ่งหวัง​ให้​เพิ่มขึ้นถึง 65 บาทต่อกิโลกรัม​เพื่อช่วยเหลือ​เกษตรกรที่เดือดร้อนจากราคายางพาราตกต่ำมายาวนาน มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว

///

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ