ข่าว

2 กก.วัตถุอันตรายชิ่งมติยืดแบน 3 สาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดหนังสือเวียนคกก.วัตถุอันตราย พบ 2 คกก. ไม่เห็นด้วยยื้อแบน 3 สารพิษ ส่งหนังสือไม่รับรองมติ 27 พ.ย.

 

22  ธันวาคม 2562 เปิดหนังสือเวียนคกก.วัตถุอันตราย พบ 2 คกก. ไม่เห็นด้วยยื้อแบน 3 สารพิษ เดินตามรอย "จิราภรณ์" ขณะที่ 2 ตัวแทนสธ. ส่งหนังสือไม่รับรองมติวันที่ 27 พ.ย. เหตุยังไม่ลงมติ บันทึกการประชุมไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ตอกหน้า “สุริยะ” อ้างมติเอกฉันท์ 24 ต่อ 0 เชื่อหากฟ้องร้องเป็นโมฆะ ด้าน"หมอธีระวัฒน์" ชี้มติใช้ไม่ได้ จี้นายกฯ รักสุขภาพปชช.สำคัญสุด พร้อมประกาศเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ สุดเพลียฟ้องร้องมาแล้ว 40 ปี 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุสาหกรรม เป็นประธาน ได้ออกหนังสือฉบับเวียนให้แก่คณะกรรมการวัตุอันตรายทั้ง 24 คน ให้รับรองผลการประชุม ในวันที่ 27 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าให้ออกประกาศกำหนดวัตุอันตรายพาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกำหนดเวลาบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 63


ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ ตามมิติคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61 ซึ่งเอกสารระบุว่ามีคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่เห็นด้วย อาทิ นางสมศรี สุวรรณจรัสกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ นางชุติมา รัตนเสถียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตัวแทนองค์การ สาธารณประโยชน์ด้านการเกษตรกรรมยั่งยืน

 

นอกจากนี้ ล่าสุด ยังพบว่าตัวแทนคณะกรรมการวัตถุอันตราย 2 คน ตัวแทน จากกระทรวงสาธารณสุข คือนายไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณากลับไปกลุ่มวิชาการและเลขานุการ กองบริหารจัดการวัตุอันตราย กรมโรงงานอุสาหกรรม ไม่รับรองผลการประชุมวันที่ 27 พ.ย.


โดยมีสาระสำคัญคือ ยังคงยืนยันรับรองผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ต.ค. คือให้แบน 3 สารเคมี และให้มีผลวันที่ 1 ธ.ค. 62 ด้วยเหตุผลว่าในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ไม่มีการลงมติโดยการลงคะแนนแต่อย่างใด และ ไม่มีการยกเลิกมติการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 49-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย

 

ดังนั้นจึงไม่สามารถรับรองรายงานการประชุมครั้งนี้ได้ รวมทั้งมีความคลาดเคลื่อนในการบันทึกการประชุม ซึ่งได้นำเสนอที่ประชุมถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการตามพ.ร.บ.อาหารว่ามีองค์ประกอบของ “ผู้แทนองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนภาคเอกชน” ซึ่งไม่ได้ปรากฎในเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการวัตุอันตรายครั้งที่ 1-2562 วันที่ 27 พ.ย. หน้า15/27บรรทัด 19-20


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ดร.จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม ก็ลาออกจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพราะไม่เห็นด้วยกับมติวันที่ 27 พ.ย.62 


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การทำหนังสือไม่รับรองผลการประชุมในวันที่ 27 พ.ย. ของคณะกรรมการวัตุอันตรายของ 4 คน และ อีก 1 อดีตคณะกรรมการฯ ที่ลาออก รวมเป็น 5 คน จึงสะท้อนให้เห็นว่า การที่นายสุริยะ แถลงมติเอกฉันท์ 24 ต่อ 0 ไม่เป็นความจริง และรวบรัด อีกทั้งยังไม่มีการลงมติ และการบันทึกการประชุมไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

 

"เชื่อว่าหากมีการฟ้องร้องมติในวันที่ 27 พ.ย.62 อาจทำให้มีผลเป็นโมฆะ เพราะมีพยานที่หนักแน่นจากกระทรวงสาธารณสุขถึง 2 คน และคณะกรรมการฯจากผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน และสภาเภสัชกรรม 1 คน อีกทั้งการใช้วิธีเวียนหนังสือรับรองให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งถือว่าไม่ใช่วิธีปกติ เพราะโดยปกติจะใช้ในโอกาสพิเศษที่ไม่สามารถประชุมได้"รายงานข่าวระบุ

 

ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา กรรมการปฏิรูประบบสาธารณสุข กล่าวว่า จากการติดตามการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 27 พ.ย.จากการถอดเทปมาฟังก็ไม่ครบถ้วน และมีคณะกรรมการวัตถุอันตราย และผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้ง สภาเภสัชกรรม แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย ให้ยึดเวลาการใช้ 3 สารเคมี


จึงทำให้มติดังกล่าวใช้ไม่ได้ ประกอบกับก่อนหน้านี้มีข้อมูลจากสาธารณสุข และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร มีมติ 423 ต่อ 0 ก็ยืนยันผลกระทบทางด้านสุขภาพที่ชัดเจน และแนวทางทดแทนการใช้ 3 สารเคมีเพื่อไปสู่เกษตรอินทรีย์ และตลอด 40 ปี มีการร้องเรื่องนี้ผ่านทุกองค์กรมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เพราะสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญสุด


"หากจะทำให้การแบนสารเคมีได้สำเร็จจริง ๆ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องประกาศเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพราะท่านเป็นผู้มีอำนาจ"นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ