ข่าว

20 จังหวัดแล้งหนัก ขาดน้ำทำเกษตร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สทนช. เตือน ไทยเผชิญแล้งหนัก 20 จังหวัด ขาดน้ำทำเกษตร ชี้ฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 50% เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ ไม่ส่งน้ำนาปรัง 8 จังหวัด

 

 

          นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ กำหนดมาตรการรองรับพื้นที่ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่องปี 2562 โดยไม่ให้กระทบต่อแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ปี 2562/63 เนื่องจากในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมีการจัดสรรน้ำทั้งประเทศเกินแผน 1,350 ล้าน ลบ.ม. ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่จัดสรรน้ำเกินแผน 495 ล้าน ลบ.ม. ลุ่มน้ำภาคตะวันตกจัดสรรน้ำเกินแผน 579 ล้าน ลบ.ม. และลุ่มน้ำภาคใต้จัดสรรน้ำเกินแผน 549 ล้าน ลบ.ม.

 

          ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวนาปีจากข้อมูลดาวเทียมในวันที่ 7 พ.ย.2562 พบว่า พื้นที่ปลูกข้าวนาปี 60.08 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 17.11 ล้านไร่ ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง 1.35 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 1.27 ล้านไร่ และที่เหลือเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน 

 

          สำหรับการประเมินพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 2562/63 จากข้อมูลดาวเทียม ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 21 จังหวัด มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 229,803 ไร่


          ทั้งนี้ พื้นที่เขตชลประทานมี 8 จังหวัดที่น้ำไม่พอทำการเกษตร ได้แก่ สุพรรณบุรี อุทัยธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธ์ุ บุรีรัมย์ และชัยภูมิ จึงขอแจ้งให้ชาวนาทราบว่า ในพื้นที่ภาคกลางให้งดปลูกข้าวนาปรัง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ต้องรับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จะไม่มีน้ำส่งมาให้ ถ้าปลูกไปก็จะเกิดความเสียหาย ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกนาปรังได้บางพื้นที่

 

          สำหรับพื้นที่ทำนารอบสองได้ บางพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง สกลนคร นครพนม นครราชสีมา ชลบุรี และระยอง ส่วนในพื้นที่นอกเขตชลประทาน มี 109 ตำบล 54 อำเภอ 20 จังหวัดที่เสี่ยงขาดน้ำเกษตร


           นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ติดตามสภาพอากาศ และคาดการณ์ปริมาณฝนในเดือนพ.ย.นี้ พบว่า ปริมาณฝนรวมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จะมีค่าต่ำกว่าค่าปกติ 30% ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีปริมาณฝนรวมต่ำกว่าค่าปกติ 20% ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีปริมาณฝนรวมใกล้เคียงค่าปกติ


          ส่วนเดือน ธ.ค.2562 ปริมาณฝนรวมทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติ 50% และเดือน ม.ค. ปริมาณฝนรวมทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติ 50% ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณฝนรวมใกล้เคียงค่าปกติ

 

          ขณะที่ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำมีทั้งสิ้น 53,316 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 65% แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 23,768 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 50% โดยพบว่ามีถึง 10 เขื่อนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่า 30% เช่น เขื่อน ภูมิพล กระเสียว จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ ขณะที่แหล่งน้ำขนาดกลางน้ำน้อย 74 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคเหนือ 28 แห่ง อีสาน 37 แห่ง

 

          ในส่วนสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขงที่ลดลงในช่วงฤดูแล้ง โดยสถานการณ์เอลนีโญจะยังคงมีผลต่อภูมิภาคทำให้ไม่มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาทั้งมาตรการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ โดยสทนช.เร่งดำเนินการใช้มาตรการด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในการผลักดันและแก้ปัญหาแม่น้ำโขง แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์น้ำแล้งในภูมิภาค และมาตรการภายในประเทศในระยะเร่งด่วนป้องกันผลกระทบกับวิถีชีวิตประชาชนและการประกอบอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก คือ

 

           1. จัดหาแหล่งน้ำสำรองและขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เพื่อสำรองปริมาณน้ำในการอุปโภค-บริโภค 2. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยโดยจังหวัด (ริมแม่น้ำโขง) สร้างการรับรู้ความเข้าใจแนวโน้มสถานการณ์วิกฤติน้ำ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้น้ำภาคการเกษตรและประมงได้รับทราบ และ 3. มอบหมายกระทรวงคมนาคมกำหนดมาตรการการขนส่งและการคมนาคมทางน้ำ รวมทั้งมาตรการรองรับการพังทลายของตลิ่งริมฝั่งโขงด้วย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ