2 อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นพยานไต่สวนฉุกเฉินศาลปกครอง หลังเกษตรกร ยื่นคำร้องให้เพิกถอนคำสั่งแบน 3 สารเคมี แฉขั้นตอนไม่โปร่งใส ไร้ตัวแทนเกษตรกร
30 ตุลาคม 2562 นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่ลาออกจากตำแหน่งไปลงสมัครเป็น สว.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2544 เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการมีมติแบนสารเคมีการเกษตร ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ไม่อาจนิ่งเฉยเห็นเกษตรกรเดือดร้อน
ทั้งนี้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น สารทดแทนก็เป็นสารเคมีที่มีราคาสูงกว่า จึงตัดสินใจมาเป็นพยานในการไต่สวนฉุกเฉินของศาลปกครอง กรณีคำสั่งแบนสารเคมี หลังกลุ่มเกษตรกร 6 จังหวัด 1,011 คน ยื่นร้องต่อศาลไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นายอนันต์ บอกว่า เหตุผลและขั้นตอนการแบนสารเคมีของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่โปร่งใส โดยเห็นว่า 1. สารเคมีดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสังคม ตามที่กลุ่มเอ็นจีโอกล่าวอ้าง 2.กรรมาธิการปัญหาสารเคมีภาคการเกษตร ของสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีตัวแทนเกษตรกรร่วมเป็นกรรมการ และ 3. คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ตั้งขึ้นตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี ไม่มีตัวแทนเกษตรที่ใช้สารเคมี มีแต่นักวิชาการ และกลุ่มเกษตรอินทรีย์
"จะเห็นได้ว่าไม่มีตัวแทนเกษตรกร ในคณะกรรมการใดๆเลยที่ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาแบน จนต้องพึ่งอำนาจศาล ซึ่งศาลก็เมตตาไต่สวน ให้ผู้ถูกร้องมาพบด้วย ให้ผู้ร้องได้พูดถึงผลกระทบ ศาลจึงเป็นเวทีเดียวที่เกษตรกรได้พูด"
มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เป็นการประชุมที่รวบรัดตัดความไม่มีข้อมูลใหม่ การเอาผลการมติ 4 ฝ่าย กระทรวงเกษตรฯ ที่มี นส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ เป็นประธาน เป็นการชี้นำจากฝ่ายการเมือง โดยคณะกรรมการวัตถุอันตราย อ้างเหตุผลการแบนจากมติที่ประชุม 4 ฝ่าย กระทรวงเกษตรฯ เข้าไปประกอบการพิจารณา นับว่าขาดความชอบธรรม เพราะไม่มีอะไรใหม่เลย เป็นเพียงการรวมเล่มเอกสารเท่านั้น
ตนสงสัยว่าทำไมไม่แบน กลูโฟสิเนต ซึ่งกำลังกล่าวถึงในฐานะสารทดแทนพาราควอต ซึ่งสารตัวนี้ สภาพยุโรปก็แบนไปแล้ว นอกจากจะเพิ่มต้นทุนเกษตรกรแล้ว ยังอาจทำมีการลักลอบซื้อสารเคใต้ดิน ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน และมียาปลอมระบาดมากขึ้น
การแบนสารเคมีเกษตรไม่เพียงจะส่งผลกระทบ เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการนำเข้า เนื่องจากหากมีการแบนสารเคมี สินค้านำเข้าที่ใช้สารเคมีก็จะถูกแบนไปด้วย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวสาลี จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่ใช้สารเคมีในการปลูก ก็จะไม่สามารถนำเข้าประเทศไทยได้ ปัญหาจะยิ่งบานปลาย จากการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ
"รัฐมนตรีบางคน สร้างกระแส ใช้สื่อช่วยกระพือ กำหนดนโยบายโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ จึงอยากขอวอนสื่อว่าอย่าไปสอนให้เกษตรกรถอนหญ้า เพราะคำนวณเรื่องค่าแรงแล้วไม่คุ้มทุน" นายอนันต์ กล่าว
นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่เกษียณไปเมื่อปี 2550 บอกว่ากระบวนการแบนสารเคมี ไร้สาเหตุที่มาเพียงพอ โดยหากอ้างการตรวจพบสารเคมีตกค้างในพืชผักของไทยแพน ก็จะพบแต่เพียงยาฆ่าแมลง คลอไพลิฟอส แต่ไม่พบยาฆ่าหญ้า ที่เป็นไกลโฟเสต และพาราควอต จะพบก็แต่อาทาซีน ไม่เห็นด้วยกับการแบน ไกลโฟเซต และพาราควอตซึ่งเป็นสารเคมีจำเป็นที่เกษตรกรจำเป็นต้องใช้ ซึ่งก็ไม่พบการตกค้างในพืชผักที่กินเป็นอาหารด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับการยื่นคำฟ้องศาลปกครอง ของกลุ่มเครือข่ายคนรักแม่กลอง ในคำขอท้ายฟ้องนั้นผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฯ ที่สั่งระงับ การผลิต - จำหน่าย -นำเข้า-ครอบครอง หรือการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ให้กลับไปเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 และขอให้ รมว.เกษตรฯ สั่งกรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยงานในสังกัด กำหนดแผนรองรับแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกษตรกร ได้รับผลกระทบจากการออกมติดังกล่าว เช่น การกำหนดสารทดแทน ที่มีราคาใกล้เคียง กับสารเคมีทั้ง 3 , ขอให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดกำหนดแนวทางบริหารจัดการสารเคมีทั้ง 3 ชนิดในทางการเกษตร ในประเทศไทยเพื่อไม่ก่อให้เกิด ผลกระทบ ต่อเกษตรกร และผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง