ข่าว

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ - ไม้มใบทำเงิน โดย - อุดม ฐิตวัฒนะสกุล   [email protected]  

         ดิฟเฟนบาเกีย(Dieffenbachia) ไม้ประดับสกุลใหญ่ที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ แต่กลับไม่มีชื่อเรียกขานเป็นภาษาไทยในไม้สกุลนี้โดยเฉพาะ เพียงแค่รู้จักกันดีสำหรับชื่อที่เรียกกันจนติดปากว่า“สาวน้อยประแป้ง”อันอาจเนื่องมาจากไม้ชนิดนี้มีการนำเข้าสู่ประเทศไทยมาเป็นช่วงระยะเวลายาวนานแล้ว ซึ่งเคยมีการจัดแสดงและจำหน่ายในช่วงก่อนยุคไม้ประดับจะเฟื่องฟูเสียอีก 

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

 

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

        และด้วยชื่อที่ฟังแล้วสะดุดหูถึงความน่ารักน่าเอ็นดู อ่อนด้วยเดียงสา ของเด็กสาวที่ถูกประโปรยด้วยแป้งประทินผิว ที่นิยมประพรมกันในยุคสมัยหนึ่งให้ถูกเปรียบเปรยกับไม้ประดับใบเขียวปลายใบเรียวมนที่มีสีขาวประกระจายดูเกือบเป็นระเบียบอยู่บนแผ่นใบ แบบไม่มีในพืชชนิดอื่นใดที่จะมีลักษณะเหมือนพืชดังกล่าว จนเป็นที่เลื่องลือถึงความสวยและแปลกใหม่ในหมู่นักสะสมและผู้ได้พบเห็นทั่วไปในช่วงเวลานั้น และต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์โดยชื่อของพืชสกุลนี้ให้กล่าวเทียบเคียงจนถึงปัจจุบัน

        สาวน้อยประแป้งนั้นแท้จริงคงเป็นเพียงชื่อในชนิดพันธุ์หนึ่งของไม้สกุลนี้ที่มีลักษณะเฉพาะ ถึงแม้จะมีลักษณะบางส่วนที่ดูคล้ายกับพืชในสกุล“เขียวหมื่นปี”(Aglaonema)แต่ก็มีใบที่โตกว่ามาก และยังมีอวัยวะอื่นๆอีกหลายส่วนให้ดูแตกต่างกันออกไป ซึ่งพืชสกุลนี้โดยส่วนใหญ่มีการค้นพบในธรรมชาติบนหมู่เกาะแถบทะเลแคริบเบียน และอีกหลายๆพื้นที่ในเขตอเมริกาใต้

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

       โดยมีทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และมีการนำมาปลูกเลี้ยงนอกเขตกำเนิดมาหลายยุคสมัยแล้ว ทั้งยังมีการขยายและพัฒนาพันธุ์ลูกผสมขึ้นใหม่อีกหลายชนิด แต่เฉพาะที่ผ่านมาในบ้านเราคงไม่ค่อยรู้จักไม้สกุลนี้ดีสักเท่าไรนัก จะมีก็เพียงไม่กี่ชนิดที่โดดเด่นขนาดเรียกกันติดปากอย่างคุ้นชินและใช้ปลูกประดับทั่วไปมาอย่างยาวนานในชื่อสาวน้อยประแป้งนั่นเอง 

      โดยที่หากมีการเอ่ยชื่อดังกล่าวแล้วก็พอจะให้เข้าใจในทิศทางถึงความหมายที่กล่าวถึงได้ไม่ยาก โดยยังมีไม้ในสกุลนี้อีกหลายชนิดที่ละม้ายและต่างกันไปด้วยลักษณะ ขนาด ลวดลายและสีของใบอย่างเห็นถึงความต่างในแต่ละชนิดพันธุ์แบบยากที่จะหาได้จากไม้ชนิดอื่นมาเทียบเคียงให้เหมือนกัน

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

   

 

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

     ไม้สกุลนี้ในอดีตยังมีเรื่องราวความลี้ลับอย่างน่าอัศจรรย์ และคงมีการเก็บสะสมเพื่อปลูกตามความเชื่ออีกหลายประการ รวมถึงมีการปลูกเพื่อการปัดเป่าเสนียดจัญไร หรือใช้ป้องกันภูติผีสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี กระทั่งความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรีที่มีอยู่ใน ว่านพญาช้างเผือก และ ว่านพญาหงสาวดี ก็ต่างเป็นดิฟเฟนบาเกียด้วยเช่นกัน โดยการเรียกขานคำนำหน้าชื่อว่าว่านก็เพื่อเป็นการสื่อถึงความเป็นสิริมงคล หรือมักใช้ในทางเสน่ห์เมตตามหานิยม เสริมบุญบารมี และในบางครั้งการใช้ว่านหลายๆชนิดก็เพื่อเชื่อมไปถึงเรื่องและสรรพคุณทางยาที่พบตามภูมิปัญญาอีกด้วย 

       แต่ในส่วนของพืชจากกลุ่มดิฟเฟนบาเกียแล้ว กลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ โดยไม้สกุลนี้มักมีชื่อเสียงในส่วนของเรื่องพิษ ที่มีผลจนเกิดการระคายเคืองในบริเวณที่สัมผัสให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขนาดทำให้หลายต่อหลายคนต้องครั่นคร้ามสพรึงกลัวด้วยฤทธิ์ของยางจากต้นไม้ชนิดนี้ จนมีการสร้างข้อมูลให้ดูน่ากลัวเข้าไว้ เพื่อคนที่ไม่รู้จักจะได้ยำเกรงหรือควรระแวดระวังไม่ให้ไปสัมผัสอย่างไม่ถูกวิธีเข้าโดยตรง หรือเป็นการนำเข้าปาก จนกลายเป็นเรื่องเกินจริงไปมากก็มี

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

"ดิฟเฟนบาเกีย"ไม่ใช่มีแค่สาวน้อยประแป้ง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ